เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2559 สื่อสังคมออนไลน์ เช่นเฟซบุ๊ก ประชาชนจำนวนหนึ่งได้มีการเปลี่ยนรูปประจำตัวบนเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความให้กำลังใจปู่คออี้ มีมิ ตัวแทนผู้เฒ่ากะเหรี่ยงแห่งป่าแก่งกระจานและพรรคพวก เนื่องในวันพรุ่งนี้ (7 กันยายน) ศาลปกครองนัดฟังคำพิพากษาคดีเผาและขับไล่ชาวกะเหรี่ยงจากบางกลอยบน หรือใจแผ่นดิน ในอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพเพชรบุรี ที่ปู่คออี้และพวกรวม 6 คน ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต่อศาลปกครองกลาง
นายสรศักดิ์ เสนาะพรไพร กรรมการอำนวยการฟื้นฟูวิถีชีวิตกะเหรี่ยง กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ตัวแทนกะเหรี่ยงจากภาคเหนือบางส่วนที่เคยจัดกิจกรรมทอดผ้าป่าข้าวเพื่อช่วยเหลือกะเหรี่ยงบางกลอย เตรียมเดินทางไปร่วมให้กำลังใจปู่คออี้และลูกหลาน โดยช่วงเช้าจะมีผู้เฒ่ากะเหรี่ยงจากเชียงใหม่ นำโดยพะตีตาแย๊ะ ยอดฉัตรมิ่งบุญ ร่วมจัดพิธีกรรมผูกฝ้ายแขนให้กำลังใจชาวบ้านบางกลอยและเครือข่าย นอกจากนั้นแล้วทางเครือข่ายชาวกะเหรี่ยงยังมีการเคลื่อนไหวทางสื่อออนไลน์ด้วยกิจกรรมเล็กภายใต้ชื่อว่า “เรารวมใจ รวมบุญ รวมคน เพื่อปู่ ผู้เฒ่าของปกาเกอะญอ” เพื่อสื่อสารให้สังคมสาธารณะได้ตระหนักถึงความสำคัญของชาติพันธุ์พื้นเมืองกะเหรี่ยงหรือปกาเกอะญอ โดยมองผ่านปรากฎการณ์การพิพากษา คดีเผาบ้านกะเหรี่ยงบางกลอย
“เราอยากให้สังคมรู้ว่า การพิพากษาครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ผลตัดสินแค่ปู่คออี้ และกะเหรี่ยงบางกลอยเท่านั้น แต่พรุ่งนี้ผลการพิพากษาจะหมายรวมถึงผลการพิพากษาชีวิตและวิถีความเป็นอยู่ของปกาเกอะญอทุกคน ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ อันนำมาซึ่งการผลักดัน โยกย้าย ชนเผ่าดั้งเดิมที่ดูแลรักษาป่าอย่างปกาเกอะญอ ที่ทยอยสูญเสียที่ดินทำกินและอยู่อาศัยไปเรื่อยๆ ตามกฎหมายของอุทยาน เรื่องแบบนี้ผมว่าปกาเกอะญอต้องรู้สึกได้ เพราะเราทุกคนรู้ดีว่าป่ามันสำคัญ” นายสรศักดิ์ กล่าว
ด้านพะตีตาแย๊ะ ยอดฉัตรมิ่งบุญ ปราชญ์ชาวปกาเกอะญออำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ผลตัดสินของศาลจะเป็นก็ตาม ปู่คออี้ คือ ตัวแทนของคนที่ต่อสู้เต็มที่แล้ว ตนและลูกหลานปกาเกอะญอจากเชียงใหม่ ในฐานะชาติพันธุ์เดียวกัน จึงอยากให้กำลังใจ ทั้งนี้ยืนยันว่า การกระทำคุณงามความดีที่ปู่คออี้ได้ทำ การรักษาป่าที่ทำมาเป็นประโยชน์ต่อหลายคน การเดินทางจากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพ จึงไม่ใช่เรื่องยาก หากจะไปเพื่อการให้กำลังใจผู้เฒ่าที่รักป่าเท่าชีวิต
“พะตีไม่รู้นะ ว่าถึงกรุงเทพแล้วเขาจะให้เราจัดกิจกรรมหรือเปล่า พะตีไม่แน่ใจ แต่สำหรับปกาเกอะญอแล้ว ไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น ขวัญและกำลังใจสำคัญ เลยคิดว่าจะผูกแขนให้กันและกัน วันนี้ปู่คออี้โดนฟ้อง วันหน้าเป็นพะตีหรือเปล่า ใครจะไปรู้ พะตีก็จะไปหาปู่ ปกาเกอะญอเป็นยังงี้แหละ ไม่มีอะไรมากกว่าน้ำใจหรอก จะถึงกี่โมงไม่รู้ ถ้าไปทันก็ผูกแขนก่อน ถ้าไม่ทันก็ผูกแขนทีหลัง แต่การรำลึกถึงกันและกันเป็นเรื่องดี ป่าที่สะเมิงยังอยู่นะวันนี้ แต่วันหน้าหายไปเหมือนแก่งกระจานก็ได้ ” พะตีตาแย๊ะ กล่าว
นายสุรพงษ์ กองจันทึก หัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือคดีความ ให้สัมภาษณ์ว่า การฟ้องคดีของผู้ฟ้องทั้ง 6คน จากบางกลอยนั้น เป็นการฟ้องเพื่อขอเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดต่อบ้านและทรัพย์สินของผู้ฟ้อง และฟ้องเพื่อขอกลับไปอยู่บ้านบางกลอยเดิม ซึ่งเป็นการฟ้องเพื่อให้กรมอุทยานฯ ได้รับผิดชอบต่อการกระทำ ส่วนคำพิพากษาจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอลุ้น สำหรับคดีการเผาบ้านนั้นครั้งหนึ่งทางหน่วยงานได้เคยนำฟ้องกรณีลูกชายปู่คออี้มาแล้ว 1 คน คือ นายนอแอะ มีมิ ซึ่งขณะนี้คดีของนายนอแอะ อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปกครองสูงสุด อยู่หลังจากศาลปกครองกลาง ได้พิพากษาให้กรมอุทยานฯ จ่ายเงินชดเชยให้10,000 บาท แก่นานนอแอะ ซึ่งทางอุทยานฯ ได้ยื่นอุทธรณ์แล้วต้องรอผลพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดต่อไป
////////////////////////////////////
