สำนักข่าวชายขอบ
Transborder News

จี้รัฐบาลไทยลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการเขื่อนไซยะบุรี-ยกเป็นวาระอาเซียน

จี้รัฐบาลไทยลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการเขื่อนไซยะบุรี-ยกเป็นวาระอาเซียน สื่อนอกเผยเวียดนาม-เขมรเตรียมยื่นค้านอีกรอบ ผอ.แรมซ่าร์สตึงเตรงไม่เอาเขื่อนดอนสะโฮงในลาว สื่อมวลชนลงพื้นที่ลาวใต้-เขมรเหนือตรวจสอบโครงการ พบคืบไปมาก หวั่นน้ำตกดัง “หลี่ผี-คอนพะเพ็ง”ทรุด

 

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้โครงการสร้างเขื่อนไซยะบุรีก็ยังไม่มีความชัดเจนใดๆ โดยที่ผ่านมาทางการลาวพยายามออกมาบอกว่าหยุดก่อสร้างแล้ว แต่เอกชนไทยที่สัมปทานโครงการกลับให้ข่าวว่าเดินหน้าก่อสร้างต่อไปและทุกอย่างเสร็จสิ้นตามแผนงาน ทำให้สังคมเกิดความสับสนว่าขนาดไหนคือสร้าง ขนาดไหนคือเตรียมการ ขณะที่ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติของไทย ก็ควรไปดูให้เห็นกับตาในพื้นที่และมีความตื่นตัวมากกว่านี้เหมือนกับที่รัฐมนตรีเวียดนามและกัมพูชาทำงาน และควรพาสื่อมวลชนลงไปพิสูจน์ข้อเท็จจริงและนำมาเปิดเผย

 

“ที่ผ่านมาสื่อมวลชนและผู้ที่ต้องการรู้ข้อเท็จจริงต้องแอบกันไป ทั้งๆ ที่ไซยะบุรีคือโครงการเขื่อนใหญ่ระดับภูมิภาค ชาวบ้านและนานาชาติต่างเป็นห่วงเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะความเสียหายด้านระบบนิเวศ และพันธ์ปลา การประมง” นายนิวัฒน์กล่าว และว่าทางการไทยและผู้ที่รับผิดชอบควรทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาโดยยึดผลประโยชน์ของชาวบ้านเป็นสำคัญ นอกจากนี้ควรหยิบยกเรื่องนี้มาหารือให้กลายเป็นวาระที่สำคัญของอาเซียนเพราะเกี่ยวโยงถึงผลกระทบกับหลายประเทศสมาชิก มิฉะนั้นอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งเหมือนกรณีหมู่เกาะทะเลจีนใต้

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ รายงานว่า นายลิม เคียน ฮอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุทกวิทยา ฐานะผู้แทนคณะมนตรีแม่น้ำโขงแห่งชาติกัมพูชา จะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบการสร้างเขื่อนไซยะบุรี ตามที่ได้รับการแจ้งจากคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย

 

“ทางเราได้ตอบทางฝ่ายไทยไปว่าขอให้ชะลอการลงตรวจสอบไปก่อนจนกว่าระดับน้ำในแม่น้ำโขงจะลดระดับ ตอนนี้น้ำโขงขึ้นสูง ไม่สามารถเห็นอะไรได้” นายเคียน ฮอร์ กล่าวและว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้แทนกัมพูชาจะไปยังพื้นที่ก่อนที่จะมีการตัดสินใจเดินหน้าก่อสร้างโครงการ และกัมพูชาต้องคัดค้าน หากผลประโยชน์จากการก่อสร้างเขื่อนน้อยกว่าผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนลุ่มน้ำโขงตอนล่าง โดยเฉพาะในกัมพูชาและเวียดนาม

พนมเปญโพสต์ระบุว่ากัมพูชาและเวียดนามได้ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคม ว่าจะทำจดหมายร่วมกันถึงรัฐบาลไทยและลาว เพื่อเรียกร้องให้ระงับการก่อสร้างเขื่อนไซยะบุรี

 

นายฮัก วิเมียน ผู้อำนวยการพื้นที่อนุรักษ์แรมซาร์ จังหวัดสตึงเตรง กัมพูชา กล่าวว่าพื้นที่ชุ่มน้ำในลุ่มน้โขงมีความสำคัญ ทั้งต่อธรรมชาติ สัตว์ และวิถีชีวิตชาวบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของลาวและตอนเหนือของกัมพูชา ที่มีพื้นที่ชุ่มน้ำแรมซาร์ที่สตึงเตรงเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่สำคัญระดับนานาชาติ มีประชาชนอาศัยอยู่ในพื้นที่ 16,000 คนในหมู่บ้านต่างๆ ตลอดลำน้ำ แต่เกิดความเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากสองสาเหตุหลัก คือการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และการสร้างเขื่อนบนแม่น้ำโขงและน้ำสาขา

 

นายวิเมียนกล่าวว่ามีความเป็นห่วงเรื่องโครงการเขื่อนที่กำลังเกิดขึ้น โดยเฉพาะเขื่อนดอนสะฮอง ที่แขวงจำปาสัก สปป.ลาว เนื่องจากจะทำให้ปลาแม่น้ำโขงลดจำนวนลง และปัญหาจะลามลงไปถึงทะเลสาปเขมร ลงไปอีกไกล ไม่หยุดอยู่แค่พื้นที่นี้ พวกตนเคยพากันเดินทางจะไปดูการก่อสร้างเขื่อนดอนสะฮอง ไปดูว่าเขาทำอะไรไปถึงไหน แต่ก็ไม่สามารถข้ามแดนเข้าไปได้

 

“สร้างเขื่อนปั่นไฟฟ้าก็ได้ประโยชน์ แต่ไม่รู้ว่าได้ประโยชน์กับใคร แต่ว่าปลาในแม่น้ำโขงเราเห็นแน่ๆ ว่าได้ประโยชน์กับประชาชน หากประชาชนอยากได้ไฟฟ้าก็ต้องเสียเงินซื้อ หากไม่มีเงินก็ไม่ได้ใช้ไฟ แต่ปลาจากแม่น้ำโขงนี่ไม่ต้องซื้อ ลงไปจับก็ได้ปลามากิน มาขาย ไม่ต้องออกไปทำงานขายแรงงานที่อื่น” นายวิเมียนกล่าว

 

ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 22-26 สิงหาคมที่ผ่านมา สื่อมวลชนจากประเทศไทยได้ลงพื้นที่เมืองโขง สปป.ลาวและจ.สตรึงเตรง ของกัมพูชา เพราะตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการสร้างเขื่อนในย่านดังกล่าวซึ่งมีแผนงานจะสร้างเขื่อน 6 แห่ง โดยพบว่าโครงการสร้างเขื่อนดอนสะโฮงมีความคืบหน้าไปมาก โดยบริษัทผู้รับเหมาได้ปักหมุดและเจาะหินเพื่อสร้างรูปลาใหม่ ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบกลับยังไม่มีใครให้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าชดเชย โดยชาวบ้านในย่านดังกล่าวได้ถูกทางการห้ามหาปลาตั้งแต่ปี 2014 ทำให้ทุกคนรู้สึกกังวลใจมากเพราะการหาปลาเป็นอาชีพหลักของคนเมืองโขง นอกจากนี้ชาวบ้านยังหวั่นวิตกว่าโครงการเขื่อนต่างๆที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของสีพันดอน โดยเฉพาะน้ำตกลือชื่ออย่างหลีผีและคอนพะเพ็ง

 

 

 

On Key

Related Posts

โฆษก KNU ประกาศไม่เหลือพื้นที่เจรจาให้ SAC ระบุต้องรบให้ชนะเท่านั้น ชวนประชาชนร่วมกำจัดปีศาจร้ายออกจากแผ่นดินกอทูเล เผยพยายามให้กระทบเศรษฐกิจน้อยที่สุด “เศรษฐา” ตั้งกก.ชุดใหญ่ติดตามดูแลสถานการณ์ความไม่สงบในพม่า ให้ปานปรีย์เป็นประธาน

วันที่ 18 เมษายน 2567 พะโดซอตอนี (Padoh Saw Taw NeRead More →

NUG เชื่อการปฏิวัติเข้าใกล้ชัยชนะ ส่งจดหมายกระชับไมตรีกองทัพว้า ชื่นชมมีส่วนสำคัญถอนรากSAC จับตาความเปลี่ยนแปลงภายหลังทูตจีนพบอดีต 3 นายพลผู้นำพม่า

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 สำนักข่าว Irrawaddy รายRead More →

นักวิชาการหลายสถาบันเห็นพ้องทบทวนโครงการผันน้ำยวม ชี้ไม่คุ้มค่าการลงทุนนับแสนล้าน-ปริมาณน้ำไม่พอ-อีไอเอไม่คลอบคลุม ชาวบ้านผู้รับผลกระทบวอนให้ลงดูพื้นที่จริง

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 เวลา 9.00 น. ที่ห้องประRead More →

ร่วมรำลึก 10 ปี ‘บิลลี่’ ถูกอุ้มหาย ชี้สูญชีวิตแต่ไม่สูญเปล่า ไทยเกิดกฎหมายป้องกันคนหาย และเป็นแรงบันดาลใจคนบางกลอยรุ่นใหม่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนกะเหรี่ยง

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ที่บ้านบางกลอย ต.ห้วยแมRead More →

ย้ายอองซานซูจี-อูวินมิ้น ออกจากเรือนจำไปบ้านพักเหตุสุขภาพย่ำแย่ ฝ่ายต่อต้านโจมตีโรงเรียนนายร้อยทหารในเมืองปวินอูหลิ่น มีผู้เสียชีวิต 4 นาย บาดเจ็บอีก 12 นาย

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 16 เมษายน 2567  สำนักข่าว ChindRead More →