ประชาชนมากกว่า 1,000 คนได้เดินขบวนประท้วงในเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของพม่าเพื่อเรียกร้องให้มีไฟฟ้าใช้ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้านแกนนำการประท้วงกว่า 40 คนที่ถูกจับกุมได้รับการปล่อยตัวจากตำรวจสันติบาลของแล้ว โดยล่าสุด การประท้วงได้แพร่กระจายไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ
นายยีพูเล (Nyi Pu Lay) นักเขียนชื่อดังชาวพม่า ที่เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ ได้รับการปล่อยตัวหลังจากใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงที่สำนักงานตำรวจสันติบาลของพม่า เขาบอกกับสำนักข่าวอิระวดีว่า “ตำรวจถามผมว่าใครอยู่เบื้องหลังการชุมนุมประท้วงครั้งนี้ และบอกว่าหัวหน้ารัฐมนตรีของกระทรวงพลังงานไฟฟ้าต้องการพบและพูดคุยกับแกนนำการชุมนุมประท้วงคนอื่นๆ ผมบอกเจ้าหน้าที่ว่า ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังการชุมนุมประท้วงครั้งนี้”
เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลพม่าได้อนุญาตให้มีการชุมนุมประท้วงของประชาชน ซึ่งต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนล่วงหน้า 5 วัน และห้ามมีการชุมนุมในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มิฉะนั้นผู้ละเมิดจะถูกจำคุก 1 ปี
ขณะนี้การชุมนุมประท้วงได้แพร่กระจายไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เช่น เมืองดาลาในย่างกุ้ง เมืองโมนยวาในมณฑลสะกาย เมืองโปรมในมณฑลพะโค โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาสื่อของรัฐบาลพม่าได้รายงานว่า ประเทศผลิตไฟฟ้าได้น้อยลงในช่วงฤดูร้อนอันเนื่องมาจากปริมาณน้ำมีจำนวนลดลง และได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน
ประชาชนพม่ากว่า 1,500 คนได้ชุมนุมประท้วงที่เมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาและมีแผนที่จะชุมนุมอีกครั้งในอีก 2 – 3 วันข้างหน้า ซึ่งการชุมนุมประท้วงครั้งนี้นับเป็นการประท้วงที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การปฏิวัติผ้าเหลืองในปี 2007 ที่รัฐบาลเผด็จการทหารได้ใช้ความรุนแรงสลายการชุมชุม
นายโกโกเล (Ko Ko Lay) หนึ่งในผู้ชุมนุมครั้งนี้ กล่าวว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุมประท้วงเพิ่มมากขึ้น โดยการชุมนุมทั้งสามจุดเมื่อวานนี้มีประชาชนมาร่วมประท้วงถึง 1,500 คน
ผู้ชุมนุมได้รวมตัวกันหน้าโรงแรมเซโดนาที่มีชาวต่างชาติจำนวนมากพักอาศัยอยู่ โรงไฟฟ้า และสถานทูตจีน โดยประชาชนได้ทำการประท้วงรัฐบาลของจีนที่ทำการซื้อไฟฟ้าจากพม่าในขณะที่พม่ากำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลน
นายโกโกเล ยังกล่าวอีกว่า พวกเรากำลังรอให้รัฐบาลมาหารือด้วย และรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องตอบสนองความต้องการพื้นฐานของประชาชนเพราะมันเป็นหน้าที่ของพวกเขา
กลุ่มผู้ชุมนุมได้จุดเทียนขณะเดินขบวนที่ถนนประวัติศาสตร์ของเมืองมัณฑะเลย์พร้อมกับตะโกนว่า “พวกเราต้องการไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง”
ประชาชนที่ในพื้นที่กล่าวกับสำนักข่าวอิระวดีว่า พวกเราต้องการน้ำและไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะดำเนินไปอย่างยากลำบาก ทั้งนี้ ประชาชนกว่า 1,000 คนได้มีส่วนร่วมในการชุมนุมประท้วงในวันแรกที่เกิดขึ้นในเมืองมัณฑะเลย์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่บางส่วนจากกระทรวงพลังงานไฟฟ้า 2 ได้เดินทางมาที่เมืองมัณฑะเลย์เมื่อวานนี้และได้จัดงานแถลงข่าว จากหน้า Facebook ของนายอองชิน นักข่าวพม่า ได้รายงานว่า นายอองตานอู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพลังงานไฟฟ้า 2 ได้กล่าวว่า “พวกเราไม่ได้เป็นผู้ที่มีอำนาจสั่งการ เราเป็นเพียงแค่แผนกบริการประชาชนเท่านั้น เราไม่เคยกักตุนพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้ในภายหลัง”
นายอองชินรายงานต่อไปว่า ในการแถลงข่าวครั้งนั้นยังได้บอกว่า เครื่องผลิตไฟฟ้ากว่าสิบตัวได้นำมาจากกรุงเนปีดอว์เพื่อที่จะเก็บกักน้ำเอาไว้ เจ้าหน้าที่ของรัฐยังได้บอกต่อไปว่า แม้ว่าทางรัฐบาลได้วางแผนในการแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในฤดูร้อนของทุกปี ถึงกระนั้นแผนดังกล่าวยังคงต้องรอต่อไปจนถึงปีหน้า
นายอองชินรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้เข้าร่วมประชุมบางคนถามว่า ได้มีการขอความช่วยเหลือจากกระทรวงพลังงานไฟฟ้า 1 เพื่อขอแบ่งไฟบางส่วนมาใช้ก่อนหรือไม่ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากเจ้าหน้าที่
นายเย มินต์ อ่อง ผู้อำนวยการกระทรวงไฟฟ้า 2 ได้ให้ความเห็นกับเรื่องไฟดับในเชิงล้อเล่นว่า “เราคงต้องทำพิธี เพื่อภาวนาให้ฝนตกมากขึ้น”
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานไฟฟ้า 1 ที่มีนายซอมิน รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าหลักในพม่า มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำในควบคุมทั้งหมด 19 แห่งทั่วประเทศ โดยขายไฟฟ้าในราคาหน่วยละ 20 จ๊าต แต่พบว่าไฟฟ้าที่ผลิตได้จำนวนมากถูกส่งขายต่างประเทศ ในขณะที่ กระทรวงพลังงานไฟฟ้า 2 จำหน่ายไฟฟ้าอยู่ที่หน่วยละ 35 จ๊าต
ในปัจจุบัน เมืองมัณฑะเลย์ต้องใช้ไฟฟ้าประมาณ 150 เมกะวัตต์ แต่หน่วยงานด้านพลังงานสามารถสำรองได้เพียง 100 เมกะวัตต์เท่านั้น โดยในปัจจุบันกำลังการผลิตพลังงานไฟฟ้าในแต่ละวันใช้ได้แค่ 6 ชั่วโมงสำหรับในส่วนต่างๆ ของเมือง ซึ่งคิดเป็นประมาณ 65 เมกะวัตต์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพม่าได้ขอความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้านอกเมืองย่างกุ้ง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนพลังงานของพม่า ซึ่งโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สร้างโดยรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าการผลิตไว้ที่ 600 เมกะวัตต์ และใช้เวลาสามถึงสี่ปีในการก่อสร้าง ในขณะที่โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติของเกาหลีใต้จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 500 เมกะวัตต์ และจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี
พม่ามีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในเรื่องไฟฟ้าดับ ทำให้ธุรกิจนับร้อยจากองค์กรขนาดเล็กไปจนถึงโรงแรมและโรงงานขนาดใหญ่ ต้องใช้เครื่องปั่นไฟของตนเองซึ่งต้องอาศัยน้ำมันดีเซลนำเข้าที่มีราคาสูงมาก
นับตั้งแต่ประเทศอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการทหารที่ปกครองประเทศมาจนถึงปลายปีที่แล้ว การผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ของประเทศได้ถูกขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จีนและประเทศไทย
(Irrawaddy 22 พค 55)