Search

ฝ่ามรสุมคุย”กะเหรี่ยง” ชุมชน 200 ปีกลางอันดามัน

มอแกนพายเรือขุดก่าบะไปยังเรือใหญ่
มอแกนพายเรือขุดก่าบะไปยังเรือใหญ่

กะเหรี่ยงแทบทุกเผ่าอยู่บนดอย รักป่า ชอบทำไร่หมุนเวียน มีบ้างลงมาอยู่ที่ราบและในเมือง เรื่องนี้รู้กันทั่วไป
แต่สำหรับทีมข่าว “สำนักข่าวชายขอบ” (transbordernews.in.th) นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคณะเพิ่งรู้ว่า กะเหรี่ยงกว่า 300 คนอาศัยอยู่บนเกาะ “ดาวจอ”กลางทะเลอันดามัน ห่างจากเมืองมะริด ภาคตะนาวศรี ประเทศเมียนมาไปทางทิศตะวันตกราว 50 กิโลเมตร มีวิถีชีวิตเรียบง่าย เช่นเดียวกับชุมชนมอแกน และชุมชนพม่า ในฐานะเพื่อนบ้านร่วมเกาะ 

การเดินทางในฤดูฝนของวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ท่ามกลางท้องฟ้าอึมครึม เมฆฝนปกคลุมเป็นหย่อมๆ เหนือเกาะใหญ่ แทบมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ สภาพอากาศเช่นนี้ถือว่าสุ่มเสี่ยงมาก เรือสปีดโบ๊ทติดเครื่องยามาฮ่า 250 แรงม้า 2 ตัว พาทีมข่าวฝ่ากระแสคลื่นลมไปด้วยใจระทึก หัวเรือกระโจนสูงยามปะทะคลื่นลูกใหญ่ และลอยตัวกลางอากาศอย่างน่าหวาดเสียว ก่อนตกกระแทกทะเลเสียงดังโครม น้ำทะลักเข้าเรือเป็นช่วงๆ ทั้่งหมดรีบสวมชูชีพเพื่อความปลอดภัย

น้ำตกไหลลงสู่ทะเลอันดามัน
น้ำตกไหลลงสู่ทะเลอันดามัน

ถึงจะเสี่ยง แต่ไม่มีใครปริปากกังวล อาจเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็น และต้องการคำตอบว่าทำไมชุมชนกะเหรี่ยงจึงไปโผล่อยู่บนเกาะกลางทะเล

มีการตั้งสมมติฐานไปต่างๆ นานาเป็นการฆ่าเวลาบนเรือ แต่ก่อนคิดเตลิดเปิดเปิงไปไกล สปีดโบ๊ทก็วิ่งเข้ามาในเวิ้งอ่าวเล็กๆของเกาะ “โต้จอ” และทอดสมอลงตรงหน้าน้ำตกสายเล็กๆที่ไหลลงสู่ทะเล อีกหนึ่งอันซีนกลางทะเล แวะอยู่ครู่หนึ่ง จึงมุ่งหน้าสู่ 1 เกาะ 3 เผ่าพันธุ์

ทีมข่าวขึ้นฝั่งที่หาดกะไน ซ้ายมือเป็นหมู่บ้านยาวม่ายของชาวมอแกน มีเรือไม้ขุดด้วยมือหลายลำจอดอยู่ริมชายหาด และใต้ถุนบ้าน หมู่บ้านมอแกนที่นี่คล้ายกับในไทย แม้แต่เรือก็เรียก “ก่าบะ” เหมือน “ก่าบาง”ของมอแกนไทย

ชาวมอแกนดาวจอถููกนายทุนพม่าพามาอยู่บนเกาะเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ สร้างบ้านให้ จัดหาอุปกรณ์ทำกินให้ เมื่อหาหมึก หาหอยได้แล้วส่วนหนึ่งนำไปขายชุมชนกะเหรี่ยง และพม่าบนเกาะ อีกส่วนส่งให้นายทุน

พวกเขาไม่มีนามสกุล ไม่จดจำอายุ วันเกิด หรือวันสำคัญใดๆทั้งสิ้น ไม่ได้นับถือหรือมีพิธีกรรมอะไร เพราะขาดผู้นำทางจิตวิญญาณ หาหมึกหอยได้น้อยก็นำไปแลกข้าวแลกผักกับกะเหรี่ยง แลกของใช้ที่จำเป็นกับพม่า ถ้าหาได้มากก็ขายเอาเงิน

ระหว่างนั่งสนทนากับแม่บ้านชาวมอแกนใต้ถุนบ้าน จู่ๆ “โดเวเซ” กะเหรี่ยงสตรีวัย 76 ปีก็แบกกระชุใส่หมากเดินเข้ามาขายในหมู่บ้านมอแกน วันนี้เธอเก็บจากสวนได้ไม่มาก ขายได้ไม่กี่พันจ๊าด ทำธุรกิจเสร็จแล้วนั่งสนทนากับเพื่อนบ้านครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดใจกับทีมข่าว

“โดเวเซ”อยู่หมู่บ้าน “กมาเชา”มา 30 ปีแล้ว เธอมีอาชีพขายหมาก พลู รับมรดกสวนหมาก 5 เอเคอร์บนที่ราบกลางเกาะ (12.65 ไร่)จากพ่อแม่ที่รับต่อจากปู่ย่าตายาย ไม่เคยรู้ว่ากะเหรี่ยงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไม รู้เพียงอยู่บนเกาะดาวจอก่อนพม่าและมอแกน

“ครอบครัวฉันอยู่กันกระจัดกระจาย มีลูกสาวอยู่ที่ระนอง และลูกชายอยู่ที่สหรัฐฯ แต่ไม่ค่อยกลับมาหา อยากให้ลูกสาวกลับมา ฉันจะยกสวนให้ เพราะแก่มากแล้ว”แม่ค้าหมากพูดอย่างมีความหวัง

โดเวเซกับเพื่อนบ้านมอแกน มีผิวพรรณและโครงหน้าต่างกัน
โดเวเซกับเพื่อนบ้านมอแกน มีผิวพรรณและโครงหน้าต่างกัน

กมาเชา”เป็นชุมชนกะเหรี่ยง “สะกอ” หรือที่เรียกตัวเองว่า “ปากะญอ” (อาศัยอยู่ทั่วไปตามดอยในภาคเหนือของไทย และในป่าภาคตะนาวศรี) มีประชากรราว 300 คน จากจำนวน 170 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ในชุมชนมีโบสถ์ มีโรงเรียนสอนภาษากะเหรี่ยงและพม่า มีครู 8 คน นักเรียน 110 คน สอนถึงเกรด 2

เมื่อไม่ได้คำตอบจากคนเก่าแก่อย่าง “โดเวเซ” ก็จำเป็นต้องสันนิษฐานจากเรื่องที่ดินซึ่งปู่ย่าตายายมอบให้พ่อแม่ ถ้านับเธอเป็นรุ่นที่ 3 แสดงว่า อายุชุมชนนี้น่าจะตกราวๆ 200 ปีเป็นอย่างน้อย

โดเวเซขายหมากให้มอแกนหมดแล้วเดินกลับหมู่บ้าน
โดเวเซขายหมากให้มอแกนหมดแล้วเดินกลับหมู่บ้าน

ส่วนเรื่องมาอยู่ได้อย่างไร เบื้องต้นมีข้อสันนิษฐานความเป็นไปได้ 2 แนวทาง 1.มีการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานเรื่อยมาจากบกสู่ทะเลด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง 2.กะเหรี่ยงหลายครอบครัวถูกกองทัพผู้มีชัยกวาดต้อนขึ้นเรือในสถานะเชลย หรือแรงงาน หรือทาส หรือทหาร แล้วเกิดเหตุอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น มาเป็นแรงงานบนเกาะ ทำหน้าที่ผลิตเสบียงป้อนกองเรือ หรือเหตุเรืออับปาง ฯลฯ ทำให้ติดค้างบนเกาะหาทางกลับไม่ได้ จำเป็นต้องลงหลักปักฐานถาวร

ใครสนใจใคร่รู้ต้นสายปลายเหตุ “กะเหรี่ยงติดเกาะ” ก็ต้องไปค้นคว้าหาความจริงกันต่อไป

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนคนบนเกาะกลับไม่สนใจจดจำอดีตเลย มีเพียงปัจจุบันกับวิถีชน 3 เผ่าพันธุ์ที่เป็นส่วนผสมลงตัว กะเหรี่ยงทำเกษตรกรรม มอแกนจับหมึกหาหอย พม่าทำมาค้าขาย ทั้งหมดซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า พึ่งพาอาศัยกัน

มิตรภาพถือเป็นสิ่งสำคัญกลางทะเลลึก ยามต้องร่วมกันฝ่าฟันความยากลำบากในฤดูมรสุม
—————————–
ภาคภูมิ ป้องภัย

On Key

Related Posts

นักวิชาการแนะรัฐไทยเร่งหารือประเทศลุ่มน้ำโขงหลังตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานใน จ.เลย-หนองคาย-บึงกาฬ-นครพนม ภาคประชาชนจี้รัฐแจ้งความจริงให้ชาวบ้านทราบ-หาแนวทางปฎิบัติ-หวั่นหลายเมืองใช้น้ำโขงผลิตน้ำประปาได้รับผลกระทบ