ภาพจาก www.phiphitoday.com

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ แหลมตง เกาะพีพี ต.แหลมตง อ.อ่าวนาง จ.กระบี่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงภายหลังจากที่มีการร้องเรียนว่าได้มีการบุกรุกแผ้วถางป่าบนเนินเขาเหนือชายหาด ซึ่งจากการสำรวจพบว่าได้มีการขุดไถพื้นที่เป็นบริเวณกว้างหลายสิบไร่ในเขตป่าเขาซึ่งมีทำเลที่สวยงามสามารถมองเห็นชายหาดและท้องทะเลในมุมสูงของแหลมตง โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา ซึ่งมีเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคตั้งเรียงรายเป็นหลักฐานระบุชัดว่าเป็นพื้นที่หลวง

 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ความว่า พื้นที่ดังกล่าวนายทุนของโรงแรมแห่งหนึ่งได้ว่าจ้างคนงานชาวพม่าให้มีขุดไถในตอนกลางคืนเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ โดยที่ดินบางส่วนเป็นพื้นที่ปลูกกล้วยของชาวบ้าน ซึ่งเจ้าของโรงแรมดังกล่าวไม่สนใจและอ้างว่าเป็นพื้นที่ว่างจึงพยายามขยายอาณาเขตของโรงแรมโดยก่อนหน้านี้ได้มีการปลูกเรือนพักไว้ให้พนักงานโรงแรมได้อาศัย และล่าสุดได้นำต้นไม้เล็ก เช่น มะพร้าว มาปลูกเต็มพื้นที่

 

“โรงแรมแห่งนี้มีปัญหากับชาวเลมาโดยตลอดเพราะไปตั้งอยู่บนสุสานของชาวอุรักลาโว้ยซึ่งเป็นชาวบ้านกลุ่มแรกที่เข้ามาอยู่ที่หาดแห่งนี้ เขาซื้อที่ดินจากชาวเลถูกๆ และขยายพื้นที่เรื่อยๆจนเดี๋ยวนี้ชาวเลแทบไม่เหลือพื้นที่อาศัย ส่วนที่ดินแปลงใหม่นี้ หากเขาครอบครองและนำไปออกเอกสารสิทธิ์ได้จะมีมูลค่านับร้อยล้าน” ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว และว่าก่อนหน้านี้เมื่อปีเดือนมีนาคม 2555 ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ได้เคยมาตรวจเยี่ยมหมู่บ้านแหลมตงซึ่งเป็นชุมชนชาวเลภายหลังจากที่ชาวเลได้เดินทางไปยื่นหนังสือแจ้งความเดือดร้อนต่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยผู้ว่าฯได้ย้ำไม่ให้ชาวเลเข้าไปบุกรุกที่ดินของอุทยานฯ แต่ปรากฏว่าขณะนี้นายทุนเป็นฝ่ายบุกรุกกลับไม่มีใครเข้าไปจับกุม

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจ นอกจากมีพื้นที่อุทยานฯที่ถูกบุกรุกใหม่แล้ว ที่น่าสนใจคือมีรีสอร์ทบางแห่งที่สามารถปลูกบนยอดเขา ทั้งๆที่บริเวณดังกล่าวควรเป็นพื้นที่ของอุทยานฯเพราะก่อนหน้านี้อุทยานฯได้กันที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยอยู่เดิมตามแนวชายหาดออกจากเขตอุทยานไปหมดแล้ว ส่วนพื้นที่ที่เหลือซึ่งเป็นป่าเขานั้น ยังคงอยู่ในความดูแลของอุทยานฯ แต่ปรากฏว่าในพื้นที่ภูเขาสูงและเป็นป่าหลายแห่งกลับกลายเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทและโรงแรมหรูซึ่งไม่ได้อยู่บริเวณที่ดินที่อุทยานฯกันออก

 

นายเริงชัย ประยูรเวช รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กล่าวว่า  อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นั้นมีเนื้อที่ประมาณ 2.4 แสนไร่ เป็นพื้นที่ทางน้ำ 83% พื้นที่บนบก 17% ได้กันออกไปประมาณ 500 ไร่ เป็นพื้นที่ ที่มีเอกสารสิทธิที่มีชาวเล หรือคนพื้นเมืองอาศัยอยู่ส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่อยู่บริเวณแหลมตง อ.อ่าวนาง และพื้นที่บนยอดเขา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กรมอุทยานฯดูแลอยู่ โดยเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ที่เข้าไปนักธุรกิจ 2 ราย ที่ บุกรุกพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านแหลมตง อ.อ่าวนางบนเกาะพีพี ที่เข้าไปตัดไม้ในพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีแล้ว ส่วนพื้นที่อื่นๆของบริเวณเกาะพีพี ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯนั้นก็กำลังตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการ บุกรุกเพิ่มเติมบริเวณใดบ้าง

 

 

 

 

 

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.