
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวอุทยานฯ เตรียมเดินหน้าทำถนนขึ้นสู่เขาพะเนินทุ่งในป่าแก่งกระจานอีกครั้งว่า ขอชี้แจงกับทุกฝ่ายว่าข่าวที่ออกไปมีความคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญ เนื่องจากในการประชุมเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา มีการเชิญหน่วยงานและผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุม ซึ่งหนึ่งในวาระทั้งหมดมีเรื่องโครงการตัดถนนที่มีกระแสการคัดค้าน ที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มอบให้ทางอุทยานฯ นำเรื่องกลับมาหารือว่าจะดำเนินการตามข้อคัดค้านอย่างไร โดยมีการเสนอความเห็นจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะผู้ทรงคุณวุฒิถึงแนวทางหลากหลาย ทั้งการซ่อมแซมถนนในสภาพเดิม ปรับถนนด้วยหินคลุกบดอัด การทำถนนลาดยาง ซึ่งมีความเห็นหลากหลาย แต่ระหว่างนั้นมีนักข่าวจากสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งเข้ามาช่วงหลังการประชุม พร้อมทั้งได้มีการถ่ายทำข่าวและนำเสนอข่าวโดยมีความคลาดเคลื่อนข้อเท็จจริงของการประชุม จนทำให้หลายฝ่ายเข้าใจผิดว่าจะมีการเดินหน้าโครงการต่อ
“นักข่าวคนนั้นเข้ามาทีหลัง ไม่ได้ฟังการประชุมตั้งแต่ต้น มติการประชุมวันนั้นก็เป็นแค่คำแนะนำหรือความเห็นเท่านั้น ไม่ใช่มติการตัดสินใจของกรมอุทยานหรือหัวหน้าอุทยาน พอมีนักข่าวเอาไปเขียนคาดเคลื่อนก็ทำให้สังคมเข้าใจผิด” หัวหน้าอุทยานฯ กล่าว

นายมานะ กล่าวอีกว่า แม้จะมีข้อเสนอแนะจากหลายฝ่ายทั้งเห็นด้วยหรือคัดค้าน แต่การกำหนดแนวทางการปรับปรุงเส้นทางต้องผ่านความเห็นของคู่สัญญา คือ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ระยะทาง 3 กิโลเมตร และผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ระยะทาง 18.5 กิโลเมตร ซึ่งขั้นตอนจะต้องผ่านฝ่ายกฎหมายและหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาตามกรอบระเบียบและกฎหมาย ก่อนกำหนดแนวทางปรับปรุงเส้นทาง แต่เนื่องจากขณะนี้สัญญาโครงการได้เดินไประยะเวลาหนึ่งแล้ว ซึ่งอุทยานยังไม่ได้มอบพื้นที่ให้ดำเนินการ เพราะต้องรอกระบวนการตัดสินใจสุดท้ายจากทุกฝ่ายอีกครั้ง ส่วนผู้คัดค้านจะสามารถให้ความเห็นอีกครั้งในการประชุมครั้งถัดไป ซึ่งกำลังส่งจดหมายเชิญส่งไปถึงทุกฝ่าย เพื่อให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว และสามารถดำเนินการแล้วเสร็จตามกำหนดและเปิดบริการอุทยานฯ โดยเร็วต่อไป
ด้านนายจำลอง วิลัยเลิศ เครือข่ายพิทักษ์รักษ์ป่าแก่งกระจาน กล่าวว่า หากเป็นจริงตามกระแสข่าวก็เป็นเรื่องน่าตกใจ เพราะหัวหน้าอุทยานฯ กำลังฝ่าฝืนมติที่ประชุม 12 พฤศจิกายน 2561 จึงอยากให้หัวหน้าอุทยานฯ ชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะหากเดินหน้าทำถนนคอนกรีตหรือลาดยางตลอดเส้นทางขึ้นไปบนพะเนินทุ่ง ภาคประชาชนอาจจะขยับอีกครั้ง อาจต้องฟ้องศาลปกครองกับหน่วยงานทั้งหมด เพราะทุกฝ่ายเห็นชอบในมติที่ให้ปรับปรุงเส้นทาง 26 จุดเท่านั้น ซึ่งข้อสรุปแนวทางการปรับปรุงก็ต้องให้ทุกฝ่ายรับทราบกระบวนการขั้นตอนด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีการเรียกประชุมแต่อย่างใด