
วิทยุเอเชียเสรี(RFA) รายงานว่าชาวบ้านในแปลงอพยพที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนไซยะบุรีจำนวน 184 ครอบครัว ซึ่งได้ย้ายมาอยู่แปลงอพยพโดยได้รับเงินชดเชยและที่ดินทำการผลิตแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอต่อการเกษตรเพื่อเลี้ยงครอบครัวและยังมีปัญหาเรื่องน้ำกินน้ำใช้ไม่เพียงพอ
หัวหน้าการดูแลบ้านอพยพของเขื่อนไซยะบุรี กล่าวเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า
“พวกเราได้ที่ดินและเงินชดเชยอิงตามเนื้อที่ที่ได้รับผลกระทบจากเขื่อนไซยะบุรีประมาณ 30-40 ล้านกีบ – 200 ล้านกีบ หรือประมาณ 114,000 บาท – 600,000 บาท แต่ยังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในแปลงอพยพ”
เขายังกล่าวว่า ชาวบ้านใน 3 ชุมชนคือ บ้านหัวทุย บ้านนาตอใหญ่ บ้านท่าเดื่อที่ได้รับผลกระทบนั้นได้โยกย้ายมาอยู่บ้านอพยพตั้งแต่กลางปี 2555 แต่ทางคณะจัดสรรของเขื่อนได้จ่ายเงินค่าชดเชยในปี 2558-2559 และจัดสรรที่ดินในการทำการผลิตให้ครอบครัวละ 4.3 – 6.4 ไร่ โดยอิงตามความเสียหายของที่ดินในแต่ละครอบครัวเป็นหลัก แต่ที่ดินทำกินที่ทางเขื่อนไซยะบุรีได้แบ่งให้ชาวบ้านนั้นยังไม่เพียงพอสำหรับการเพาะปลูกเพื่อเลี้ยงครอบครัว แม้ว่าทางคณะจัดสรรโครงการเขื่อนไซยะบุรีจะได้ฝึกอบรม จัดอาชีพให้ใหม่ โดยส่งเสริมให้ชาบ้านปลูกสวนผลไม้ ซึ่งทางโครงการจะสนับสนุนให้เลี้ยงไก่ หมู วัว ควาย โดยในแปลงอพยพ ประกอบไปด้วย คลินิก โรงเรียน ที่ทำการหมู่บ้าน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ แต่ก็ยังประสบปัญหาน้ำดื่มน้ำใช้ที่ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากท่อน้ำที่ทางโครงการได้ก่อสร้างให้ชาวบ้านแตกพังตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาซ่อมแซมให้
ขณะที่เจ้าหน้าที่เมืองปากลายกล่าวว่า ทางบริษัทรับผิดชอบเขื่อนและส่วนการประปาได้ส่งพนักงานไปเก็บข้อมูลแล้ว และยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาว่า จะซ่อมแซมอย่างไร
ปัจจุบันเขื่อนไซยะบุรี ก่อสร้างได้ 99 เปอร์เซ็นต์และกำลังทดลองผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ก็ยังมีปัญหาขัดข้อง โดยจะเปิดใช้ภายในปี 2563 นี้ เขื่อนดังกล่าวเป็นของบริษัท ซีเคพาวเวอร์ โดยมีบริษัท ช.การช่างของไทยเป็นผู้ออกแบบและก่อสร้างเขื่อน
///////