เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562 ตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำวังหีบ อ.ทุ่งสง และโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมทั้งตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยจากการทำเหมืองแร่ทองคำพิจิตรและเพชรบูรณ์ เดินทางเข้าพบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นหนังสือขอให้กมธ.ตรวจสอบโครงการและให้มีการทบทวนความเหมาะสมของโครงการฯ โดยเฉพาะคลองสังข์ ที่กำลังมีการเดินหน้าก่อสร้างในพื้นที่ รวมถึงมีเรื่องปัญหาที่ดิน ที่อยากให้ทบทวนโครงการใหม่ นอกจากนี้ยังเสนอให้กมธ.ช่วยประสานระงับงบประมาณในปี 2563 ของโครงการออกไปก่อนจนกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจะยุติ หรือมีการตรวจสอบความเหมาะสมใหม่ เนื่องจากโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านทั้งที่ทำกินและที่อยู่อาศัยกว่า 300 ราย นอกจากนั้นยังมีลูกจ้างได้รับผลกระทบอีกกว่าเกือบ 200 ราย
ขณะที่ชาวบ้านคลองวังหีบเสนอให้มีการยุติโครงการสร้างเขื่อนกั้นคลองวังหีบ เนื่องจากบริบทของพื้นที่ได้เปลี่ยนแปลงไป การปลูกพืชเปลี่ยนไปไม่ได้ทำนาซึ่งความต้องการน้ำตามรอบเวร แต่ปัจจุบันชาวบ้านหันมาปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และสวนผลไม้แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องสร้างเขื่อน ซึ่งจากผลสรุปของคณะทำงานที่กระทรวงเกษตรฯ ตั้งขึ้นเห็นว่า ควรชะลอโครงการออกไปก่อน และให้มีการบริหารจัดการน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่แล้วในพื้นที่กว่า 21 แห่ง
ด้านตัวแทนผู้ป่วยจากการทำเหมืองแร่ทองคำพิจิตรและเพชรบูรณ์กล่าวว่า อยากให้ทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดดำเนินการแก้ไขเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ตามแผนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองทอง
นายพิธากล่าวว่า ได้รับฟังและร่วมแลกเปลี่ยนกับตัวแทนของชาวบ้าน ในเบื้องต้น กมธ.จะมีการประชุมทุกๆ วันพุธ โดยวันพุธ ที่ 13 จะเป็นเการประชุมเรื่องเหมืองแร่ และจะมีการประชุมเรื่องทรัพยากรน้ำเป็นเรื่องที่ 6 ซึ่งจะมีการหารือกันต่อไป