เมือวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 ตัวแทนชาวบ้านพุระกำ ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่จะได้รับผลกระทบถูกโยกย้ายและสูญเสียที่ดินทำกินจากโครงการก่อสร้างเขื่อนพุระกำหรืออ่างเก็บน้ำหนองตาตั้ง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างเขื่อนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเดินทางไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.ราชบุรีในวันที่ 12 พฤศจิกายน โดยมีตัวแทนนายกรัฐมนตรีรับหนังสือจากชาวบ้าน
นายสมบัติ วริทธิกรกุล ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่าต้องการให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาข้อเรียกร้องของชาวบ้านพุระกำที่ต้องการให้ยกเลิกการสร้างเขื่อนพุระกำ เพราะนอกจากจะสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำแล้ว ยังกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านกะเหรี่ยงกว่า 100 ครัวเรือน และที่ทำกินกว่า 400 ไร่ ที่จะถูกอพยพย้ายถิ่นฐาน ซึ่งไม่มีชาวบ้านคนใดต้องการย้ายออกจากชุมชนที่อยู่กันมา 3 ชั่วโคตร และไม่คุ้มกับการต้องสูญเสียที่ทำกินที่มั่นคง การไปบุกเบิกทำกินในที่ใหม่ก็ไม่ได้รับรองว่าชาวบ้านจะมีความสุขเหมือนกับอยู่ที่พุระกำ
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ลงพื้นที่เพื่อประชุมชาวบ้านพุระกำ และชี้แจงพิจารณาแนวทางการจัดหาพื้นที่อยู่อาศัยและที่ทำกินทดแทน แต่ไม่ได้ข้อสรุปเพราะชาวบ้านยืนยันว่าไม่ต้องการอพยพ ทำให้ชาวบ้านมีความร้อนใจ ก็หวังว่ารัฐบาลจะเห็นใจและช่วยระงับโครงการนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ(กก.วล.) ในวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา มีมติให้กรมชลประทานไปทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1.เรื่องชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ ให้กรมชลประทานไปพูดคุยสร้างความเข้าใจกับชุมชน และเสนอมาตรการลดผลกระทบ รวมถึงแนวทางแก้ไขผลกระทบในพื้นที่เรื่องระบบนิเวศป่าไม้ สัตว์ป่า 2.ให้ไปทำการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในพื้นที่ที่จะถูกน้ำท่วมทั้งหมด และสำรวจเพิ่มเติมออกจากแนวน้ำท่วมเป็นระยะทางอีก 5 กิโลเมตร ว่าพบสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์มากน้อยแค่ไหน
อนึ่ง ผืนป่าพุระกำถือเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำลำภาชี เป็นแหล่งที่อยู่ของนกเงือกที่ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด มีการพบรังและการขยายพันธุ์ รวมทั้งเป็นเส้นทางอพยพหากินของนกเงือกที่มีความเชื่อมโยงกับผืนป่าเขาใหญ่ และผืนป่าทางภาคใต้ไปจรดป่าในเทือกเขาบูโดและป่าฮาลาบาลาที่เป็นแหล่งนกเงือกสำคัญของภูมิภาค รวมทั้งเป็นกลุ่มป่าในผืนป่าแก่งกระจานที่รัฐบาลผลักดันให้เป็นมรดกโลก