เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 กลุ่มฮักแม่น้ำเลยและกลุ่มผู้คัดค้านโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก ได้เผยแพร่ข้อมูลภายหลังจากร่วมประชุม 3 ฝ่ายที่ศาลากลางจังหวัดเลยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยเป็นประธาน โดยระบุว่า การหารือเริ่มจากกลุ่มฮักแม่น้ำเลย เรียกร้องให้ชะลอการดำเนินโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักออกไปก่อน จนกว่าจะมีการสรุปหลังการจัดเวทีสาธารณะ ที่แต่ละฝ่ายจะต้องนำเสนอข้อมูลที่มีข้อดีและผลกระทบอื่นๆ ตามที่จะมีการออกแบบร่วมกันก่อน ทั้งนี้จะมีการทำบันทึกข้อตกลงตามข้อเสนอของชาวบ้านทั้ง 7 ข้อภายใน 15 วัน ระหว่างกรมชลประทาน กลุ่มฮักน้ำเลย และส่วนราชการจังหวัดเลย
ทั้งนี้ข้อเสนอ 7 ข้อประกอบด้วย 1.ให้มีการจัดเวทีสาธารณะ เพื่อรับฟังความคิดเห็น แสดงข้อมูล ข้อกังวล ข้อดี ข้อเสีย ให้ครบถ้วน รอบด้าน ตลอดจนความคุ้มค่าของโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก โดยต้องมีนักวิชาการทั้งสองฝ่าย และต้องให้ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจต่อโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักเข้าร่วม เพื่อเสนอแนวปฏิบัติต่อไปได้ด้วยความเห็นชอบร่วมกัน
2.หลังจากวันนี้ต้องมีการเสนอให้ชะลอโครงการฯ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการสรุปหลังจากการจัดเวทีสาธารณะ โดยผู้มีอำนาจอย่างเร่งด่วน 3.ต้องมีการศึกษาความคุ้มค่า ผลกระทบให้รอบด้าน ในลักษณะเดียวกับการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ของโครงการ 4.กรมชลประทาน ต้องทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร กรณีชาวบ้านร้องเรียนมีบุคคลเรียกร้องผลประโยชน์กับชาวบ้านในพื้นที่ก่อสร้าง
5. กรมชลประทานต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน กับเจ้าของพื้นที่ซึ่งกรมชลประทานส่งเข้าไปดำเนินการใดๆ เช่น การปักธง ฝังหมุด เป็นต้น 6.ทุกเวที ทุกการประชุม กรมชลประทานต้องเชิญคณะกรรมการบริหารจัดการร่วมโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก ที่มีการแต่งตั้งไว้เข้าร่วมทุกครั้ง 7. มีการตั้งผู้ประสาน 3 ฝ่าย
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในพื้นที่ล่าสุด ระหว่างการประชุมร่วมที่จังหวัดเลย กรมชลประทานได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปปักหมุดแสดงเขตโครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก โดยไม่มีการแจ้งเจ้าของที่ดิน ดังนั้นชาวบ้านเจ้าของที่ดินเตรียมเข้าแจ้งความต่อตำรวจในวันนี้
อนึ่ง โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก เดิมเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของโครงการผันน้ำโขง-เลย-ชี-มูน ต่อมามีการแยกโครงการออกมาเป็น โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งคณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมชลประทาน มีแผนการดำ เนินงาน 6 ปี ในปีงบประมาณ 2661-2566 ด้วยวงเงินทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท ลักษณะของโครงการนั้นประกอบด้วยประตู (ช่องลัด) ระบายน้ำประเภทบานตรง ขนาดระบายกว้าง 15 .00 เมตร สูง 13,20 เมตร จำนวน 5 ช่อง ประตูระบายน้ำเดิม(แม่น้ำเลย) ประเภทบานตรง กว่าง 10.00 เมตร สูง 12.50 เมตร จำนวน 2 ช่องระบบส่งน้ำยาวประมาณม 99 กม. มีสถานีสูบน้ำ 5 สถานีบริเวณก่อสร้างหัวงาน คือ ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน เพิ่มพื้นที่ชลประทานฤดูฝน 72,500 ไร่ และฤดูแล้ง 18,100 ไร่ ครอบคลุม 7 ตำบล คือ เชียงคาน นาซ่าว ปากตม หาดทรายขาว เขาแก้ว จอมศรีและ ต.ธาตุ อ.เชียงคาน รวม 44 หมู่บ้าน 9,287 ครอบครัว บรรเทาอุทกภัยในฤดูน้ำหลากและสามารถบริการจัดการน้ำลุ่มน้ำเลยตอนล่างได้ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย
อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่โครงการได้ออกมาคัดค้านเนื่องจากได้รับผลกระทบโดยเฉพาะหวั่นเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วม และระบบนิเวศเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยเฉพาะวิถีการหาปลาของชาวประมงเนื่องจากปิดกั้นเส้นทางการอพยพของปลา (อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://transbordernews.in.th/home/?p=23458)