วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา เกียกกาย คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ ได้แถลงผลการประชุมกมธ.ครั้งแรก โดยนายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ส.ส.ตาก พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกกมธ. กล่าวว่า การประชุมกมธ. ที่มีสมาชิก กมธ. 49 คน ได้เลือก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน กมธ. และนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม เป็นรองประธานฯ รวมทั้งยังมีรองประธานอีกหลายคน
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องดีที่ส.ส. และส.ว. ได้จัดตั้งกมธ.ชุดนี้มา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญโดยส่งตัวแทนมา 12 คนมาเป็น กมธ. โดยปัญหาใหญ่ของไทยตอนนี้คือเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ดังนั้นกมธ. ชุดนี้จึงเป็นองค์กรความสำคัญ เพราะจะทำหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการบริหารจัดการน้ำในทุกๆ องค์กร
นายอุบลศักดิ์กล่าวว่า โครงการผันน้ำโขง เลย ชี มูน ป่าสักและโครงการผันน้ำกก อิง น่าน เจ้าพระยา ป่าสัก แม่กลอง ท่าจีน ได้ศึกษามาตั้งแต่ปี 2509 ผ่านไปแล้ว 52 ปี ในฐานะที่ตนยื่นญัตติหลักเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบซึ่งสภาได้ลงมติเห็นชอบให้ตั้งกมธ.เพื่อตั้งใจให้โครงการนี้บรรลุเป้าหมาย
“ยามวิกฤตน้ำท่วม ประชาชนเดือดร้อนถ้วนหน้า ยามแล้งเกษตรกรก็เดือนร้อนกันถ้วนหน้า โครงการนี้คาดว่าจะบรรลุเป้าหมายภายในรัฐบาลชุดนี้ หากผันน้ำขึ้นได้อย่างเป็นระบบ เราใช้วิธีการส่งน้ำขึ้นที่สูงและทำคูส่งน้ำตามถนนทุกสายทั้งของประเทศ มั่นใจได้ว่าในยามน้ำมากจะผันน้ำเก็บไว้ในสูงตั้งแต่ อ. เชียงคาน จ.เลยและภาคอีสาน 20 จังหวัด ภาคเหนือจากกก อิง น่าน เจ้าพระยา ป่าสัก 14 จังหวัด และภาคกลางอีก 26 จังหวัดจุดหมายปลายทางจากภาคเหนือและอีสานจะมาลงที่เขื่อนป่าสัก จะให้บรรลุเป้าหมายในรัฐบาลชุดนี้”นายอุบลศักดิ์ กล่าว
พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่าการผันน้ำจากแม่น้ำสาละวิน แม่น้ำเมย แม่น้ำยวม จากภาคเหนือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย วันนี้เส้นเลือดกำลังแห้งขอด น้ำภายในประเทศน้อยมากเพราะประเทศไทยเก็บได้น้อยจนไม่สามารถบริหารจัดการได้ หน้าฝนก็น้ำท่วม หน้าแล้งก็แห้งแล้ง เราจึงต้องผันน้ำจากลุ่มแม่น้ำสาละวิน เมยและยวมซึ่งอยู่ในประเทศไทย หากเราสามารถผันน้ำได้ ปัญหาน้ำเค็มของภาคกลางและกทม.จะไม่เกิดขึ้นเลย และการดำเนินการใช้งบประมาณไม่มาก ประมาณ 6 ปีคุ้มทุน
“ผมเชื่อมั่นว่าจากที่พวกเราทั้งหมดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาได้ร่วมกันเสนอญัตตินี้เข้ามา ถ้ารัฐบาลรีบดำเนินการจะเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญของประชาชนไทยทั้งประเทศ เพราะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งได้ และสร้างรายได้ให้คนไทยมหาศาล เราจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้คนไทยทั้งประเทศ” พ.ต.ท.ไวพจน์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมกมธ.ได้มีการถกเถียงเรื่องการแต่งตั้งรอง กมธ.ว่าใครอยู่ลำดับที่เท่าไร โดยรองประธานมีด้วยกันทั้งสิ้น 7 คน และโฆษกกมธ. 10 คน ซึ่งในการประชุมครั้งต่อไปจะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาญัตติซึ่งแบ่งตามภาคต่างๆ