
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 กลุ่มประชาชนในนาม ภาคี #SAVEบางกลอย และ ผู้แทนชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวยื่นหนังสือถึง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย เพื่อขอให้ชะลอกระบวนการส่งสำนวนฟ้องชาวบ้านบางกลอย 28 ราย
ทั้งนี้การเคลื่อนไหวดังกล่าวจากการแก้ปัญหาของชาวบางกลอยที่ไม่คืบหน้า รวมถึงมีสถานการณ์ตึงเครียดในพื้นที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากการพยายามแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับชาวบ้าน 28 ราย ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และ พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 อีกทั้งพนักงานสอนสวนจะเร่งรัดส่งสำนวนฟ้องให้พนักงานงานอัยการในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
นางสาวชญาธนุส ศรทัตต์ หรือ เฌอเอม อดีตผู้เข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 กล่าวว่า ขอสนับสนุนการชะลอการดำเนินคดีความชาวบ้านบางกลอย เพราะภาครัฐและชาวบ้านตระหนักดีว่าทั้งสองฝ่ายมีต้นทุนทางกฎหมายไม่เท่ากัน รัฐไม่สามารถลงมาถกเถียงกับกลุ่มคนที่ถูกผลักติดชายขอบซ้ำซ้อนกันหลายวง เช่น ชาวปกาเกอะญอ ได้ วิธีที่ทั้งสองฝ่ายจะสามารถเจรจาแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องให้มีคณะกรรมการช่วยเหลือชาวบ้านในด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชน เพื่อให้พวกเขาขจัดปัญหาเดิมในการเป็นพลเมืองชั้นรองในโครงสร้างทางกฎหมายออกไปก่อน
“เราจำเป็นต้องมองกฎหมายด้วยเลนส์ของมนุษยธรรมด้วย ไม่เพียงแค่บทลงโทษและช่องโหว่ที่มีโอกาสหยิบฉวยมาใช้เท่านั้น ว่ากฎหมายดังกล่าวเป็นกฎหมายนิติธรรมต่อบุคคลทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้มีอำนาจไปจนถึงบุคคลยากไร้หรือไม่ ปัญหาตั้งต้นในกรณีบางกลอย-ใจแผ่นดินก็มาจากมุมมองของรัฐในการถือครองทรัพยากร ที่ไม่ให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและบริหารพื้นที่ทำกิน” เฌอเอมกล่าว
เวลาประมาณ 17.00 น. ผู้แทนรัฐบาลได้นำหนังสือที่ลงนามโดย ร.อ.ธรรมนัส 3 ฉบับ เรื่อง “ขอให้พิจารณาแก้ไขปัญหากรณีราษฎรได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่บ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี” มาให้กลุ่มจัดกิจกรรม โดยเป็นหนังสือขอความร่วมมือไปยัง 3 หน่วยงาน ได้แก่ 1. นายชัยพร เกริกกุลธร อธิบดีอัยการ ในนามประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาด้านคดีความ และให้ความช่วยเหลือในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย 2. อัยการจังหวัดเพชรบุรี และ 3. ผู้กำกับการตำรวจภูธรแก่งกระจาน ตามข้อเรียกร้องด้านคดีความโดยกลุ่มภาคี #SAVEบางกลอย 2 ข้อ ได้แก่ การขอให้ประสานงานหรือสั่งการไปยังพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งกระจาน ให้ชะลอการดำเนินการส่งฟ้องชาวบ้านบางกลอยทั้ง 28 คนไว้ก่อน รวมทั้งให้ยุติการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และขอให้สั่งการ ให้คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหากฎหมายและคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาคดีความ เร่งรัดจัดประชุมโดยเร่งด่วน เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้านคดีความของชาวบ้าน ก่อนการดำเนินการใดๆ ของพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการ
นายพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ชาวบ้านบางกลอย กล่าวภายหลังรับสำเนาหนังสือทั้ง 3 ฉบับว่า เราหวังว่าคำสั่งนี้จะมีผลต่อพนักงานอัยการเพชรบุรีและพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน เราไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็เพียงอยากจะบอกว่า สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ควรอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เบียดเบียน แม้จะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน แต่เราอยู่ร่วมกันได้
ขณะที่นายธัชพงศ์ แกดำ ผู้แทนภาคี #SAVEบางกลอย ได้กล่าวขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส ที่เห็นถึงความเดือดร้อนของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที รวมทั้งขอบคุณประชาชนที่ร่วมสนับสนุนการเคลื่อนไหว และยืนยันจะติดตามกระบวนการแก้ไขปัญหาให้ถึงที่สุด ก่อนจะประกาศยุติกิจกรรมในเวลาประมาณ 17.30 น.