Search

คนไทยพลัดถิ่นจัดใหญ่รับ “บิ๊กป้อม” จี้เร่งสะสางปัญหาคืนสัญชาติ

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดระนอง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจราชการ ขณะที่ชาวบ้านเครือข่ายแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย 4 จังหวัด เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง(คปสม.) และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ )กว่า 70 คน ได้เดินเข้ายื่นหนังสือเพื่อเร่งรัดให้มีการประชุมคณะกรรมการแก้ปัญหาพีมูฟ พร้อมทั้งยื่นหนังสือผ่านถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อเร่งรัดให้มีการประชุมอนุกรรมการศึกษาและแก้ปัญหาสถานะและสิทธิบุคคล  และยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อให้ดำเนินการจัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามการแก้ปัญหาสถานะและที่ดิน ในระดับจังหวัด โดยมีนายประสาน หวังรัตนปราณี  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร เป็นตัวแทนมารับหนังสือ

ขณะที่นายโชว์ไอ ปาทาน และนายฮัมดา ปาทาน เยาวชนไทยพลัดถิ่น ได้เป็นตัวแทนในการมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร โดยนายโชว์ให้เปิดเผยว่า ตนได้ขอให้พล.อ.ประวิตรช่วยเร่งรัดให้มีการประชุมการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลทั้งในส่วนของจังหวัดและในส่วนของคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามข้อเรียกร้องของพีมูฟ รวมทั้งคณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งพล.อ.ประวิตรได้รับฟังและบอกว่าจะเร่งรัดให้ นอกจากนี้ยังได้พบกับนายประสานโดยนายประสานบอกว่าจะเร่งรัดให้ทางจังหวัดจัดการประชุมภายในวันที่ 15 ธันวาคม ส่วนกรณีคณะกรรมการพิจารณาสัญชาติที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เป็นประธานนั้นก็จะประสานให้

“น้องชายผมคือนายฮันดา ปาทาน ยังได้เล่าเรื่องที่กำลังจะถูกเพิกถอนบัตรประชาชน เพราะที่มาของพ่อแม่ยังไม่ได้ข้อยุติ ทำให้น้องอาจต้องขาดโอกาสทางการศึกษา เขาเข้าคณะวิศวกรรมได้แล้ว แต่หากถูกถอนบัตรประชาชน จะทำให้ไม่สามารถกู้ยืมเงินกองทุนฯได้ ซึ่งคุณประสานให้ความสนใจและขอให้ส่งข้อมูลต่างๆไปให้อย่างเร่งด่วน เพราะต้นเดือนธันวาคม ฮัมดาต้องยืนยันสิทธิแล้ว”นายโชว์ไอ กล่าว

ทั้งนี้ในหนังสือที่เครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทยพลัดถิ่นทำถึง พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ส่งผลต่อการแก้ปัญหาสถานะและสิทธิของคนไทยพลัดถิ่น โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยเชื้อสายมุสลิม (จากมะริด)  และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ในจังหวัดพังงา ระนอง ชุมพร และประจวบคีรีขันธ์ ในกรณีต่างๆ เช่น กรณีการยื่นคำขอพิสูจน์ความเป็นคนไทยพลัดถิ่น กรณีการจำหน่ายรายการทางทะเบียน กรณีขึ้นทะเบียนผิดกลุ่ม กรณีรอบันทึกรายการทางทะเบียน การเพิ่มชื่อบุตร ตามบิดา-มารดาที่ได้สัญชาติไทยเรียบร้อยแล้ว และการเพิ่มชื่อของบุตรที่เกิดในประเทศไทยของกลุ่มคนเชื้อสายไทยมุสลิม (จากมะริด) ตามมาตรา 7 ทวิ วรรค 2 และมาตรา 23 ที่เกิดความล่าช้า และหลายกรณียังไม่เกิดการปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด ส่งผลต่อสิทธิด้านต่างๆ และการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ แก่คนกลุ่มนี้ จึงขอให้มีการนัดประชุม อนุกรรมการศึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสถานะและสิทธิของบุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ ธันวาคม 2564 ณ กระทรวงมหาดไทย


On Key

Related Posts

สส.ปชน.เชียงรายจี้รัฐบาลสร้างระบบเตือนภัยแม่น้ำกก-แนะเร่งถอดบทเรียน 6 เดือนภัยพิบัติ คนขับเรือลำบากหลังนักท่องเที่ยวลดฮวบ ผวจ.เชียงรายเตรียมตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนแก้ปัญหาคุณภาพน้ำข้ามแดน

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 นายชิตวัน ชินอนุวัฒน์ สRead More →

วัวควายเดือดร้อนถ้วนหน้าหลังน้ำกก-สายปนเปื้อนสารหนู-ใช้น้ำทำการเกษตรไม่ได้ “ครูแดง”แนะเร่งแก้ปัญหาต้นเหตุ “ดร.ลลิตา”เผยว้าตั้งหน่วยให้สัมปทานเหมืองแร่ จี้หารือทางการจีนช่วยปราม

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 นางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีตRead More →

สนามรบในรัฐกะเหรี่ยงเดือด ทหารพม่าใช้เรือส่งกำลังพลเสริมทางแม่น้ำจาย หลังถูกปิดล้อมค่ายใหญ่ในเขตกอกะเร็ก KNUออกประกาศเตือนชาวบ้านเลี่ยงเดินทาง หวั่นตกเป็นเป้าทหารพม่า

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงRead More →

ชาวเมืองล่าเสี้ยวสุดเซ็ง ทัพโกก้างคืนเมืองล่าเสี้ยวให้ทัพพม่า-เล่นเกมอำนาจการเมืองกัน เปรียบเหมือนหมาแย่งบอลแต่ชีวิตชาวบ้านไม่มีอะไรเปลี่ยน

สำนักข่าว Irrawaddy รายงานเมื่อวันที่ 19 เมษายน 25Read More →

ผู้เชี่ยวชาญหวั่นผลกระทบสารหนูในน้ำกก-น้ำสายกระจายตัววงกว้าง-รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่รีบแก้ที่ต้นทาง ชี้เป็นสารพิษสะสมก่อเกิดมะเร็ง จี้ ทส.ตั้ง กก.เฝ้าระวัง-ตรวจผลอย่างน้อยทุกเดือน เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารทำหนังสือประสานพม่าร่วมแก้ไข

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวRead More →