เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม(สปส.) กระทรวงแรงงาน ได้เผยแพร่ข่าวการเตรียมการเลือกตั้งคณะกรรมการ(บอร์ด)ประกันสังคม โดยระบุคำสัมภาษณ์นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ซึ่งกล่าวว่า สปส. ประกาศให้มีการเลือกตั้ง บอร์ดในที่ 24 ธันวาคม 2566 เพื่อหาผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนฝ่ายละ 7 คน ทำหน้าที่เสนอความเห็นและนโยบายในการบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม ซึ่งเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 รวมทั้งนายจ้าง ที่จ่ายเงินเข้าระบบประกันสังคม จะมีโอกาสเข้าคูหาเลือกตัวแทนในการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนและบริหารกองทุนประกันสังคมให้มีเสถียรภาพ อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิต ของนายจ้างและผู้ประกันตนให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดระบบให้นายจ้างและผู้ประกันตนลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม จนกระทั่งปิดระบบลงทะเบียน วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 เวลา 23.59 น. มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง ฝ่ายผู้ประกันตน จำนวน 945,609 ราย ฝ่ายนายจ้าง จำนวน 4,209 ราย รวมจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 949,818 ราย สำหรับผู้สมัครผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน มีจำนวน 247 ราย และผู้สมัครผู้แทนฝ่ายนายจ้าง จำนวน 69 ราย
ทั้งนี้จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและสถานที่เลือกตั้งในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 และประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งและหมายเลขผู้สมัครในวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th และที่ สปส.กรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด ทั่วประเทศ สามารถสอบถามรายละเอียด และคำแนะนำในการจัดการเลือกตั้งเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม (ศอ.กต.นจ.ผปต.) โทร. 02-956-2222 ในเวลา 08.30 – 16.30 น. (ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ)
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ผู้บริหารกระทรวงแรงงานและ สปส.ได้ตั้งเป้าว่าจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกันตนมาลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน จากจำนวนผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้ง 13 ล้านคน
นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย(สสรท.)กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจตั้งแต่เริ่มต้นที่ให้ผู้ประกันตนไปลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะจริงๆแล้วผู้ประกันตนต่างก็มีบัตรประกันสังคมอยู่แล้ว น่าจะเปิดให้ไปใช้สิทธิได้เลย และกระบวนการในการลงทะเบียนก็ไม่ใช่ง่าย สะท้อนให้เห็นว่าระบบไม่เอื้อประโยชน์ให้ผู้ประกันตนไปใช้สิทธิเท่าที่ควร การที่มีผู้ประกันตนลงทะเบ่ยน 9.4 แสนคนถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากมองในเชิงบวกก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ฝ่ายราชการยอมปล่อยอำนาจในการบริหาร สปส.บ้าง หลังจากที่ลูกจ้างเรียกร้องมานาน
“ผมไม่แน่ใจว่าผู้บริหาร สปส.เขาเต็มใจจัดการเลือกตั้งหรือไม่ ที่ผ่านมาพวกเราพยายามช่วยกันรณรงค์ให้ผู้ประกันตนลงทะเบียนกันมากๆ แต่ดูท่า สปส.กลับไม่ค่อยกระตือรือร้นสักเท่าไร หลังเข้าโหมดหาเสียงและเลือกตั้งเราไม่รู้ว่าจะมีผู้ประกันตนมาใช้สิทธิแค่ไหน และสปส.จะประชาสัมพันธ์อย่างไร เขาจะเปิดเวทีให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่”นายสาวิทย์ กล่าว