เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 รศ.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ดประกันสังคม) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ว่าทางลูกจ้างได้ต่อสู้มานานเพื่อให้ผู้ประกันตนได้เลือกผู้ที่จะมาเป็นบอร์ดโดยตรง แต่พอได้ตามข้อเรียกร้อง กลับมีบางส่วนเหมือนไม่อยากให้มีการไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากนัก ทั้งๆที่หลักการควรให้ผู้ประกันตนเลือกตั้งมากสุด จากจำนวนผู้ประกันตนทั้งหมด 23.7 ล้านคน แต่ผลสุดท้ายมีผู้มีสิทธิไม่ถึง 9 แสนคน
“ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมต้องให้ผู้ประกันตนมาลงทะเบียนก่อนถึงจะมีสิทธิเลือกตั้ง เมื่อผู้ประกันตนต่างก็มีบัตรประกันสังคมกันอยู่แล้ว ทำไมต้องสร้างความยุ่งยากอีก ขนาดการเลือกตั้งระดับชาติไม่เห็นยต้องลงทะเบียนก่อนเลย ผมคิดว่ามีคนบางกลุ่มอยากให้จำนวนผู้ประกันตนไปลงคะแนนน้อยเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ผมเคยนั่งเป็นประธานอนุแรงงานชุดหนึ่งและเข้าประชุมร่วมกับบอร์ดประกันสังคม เราเห็นได้ชัดว่าบอร์ดที่มาจากฝ่ายลูกจ้างไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเศรษฐกิจ เขาไม่เข้าใจเรื่องการลงทุน ผมถึงอยากให้ได้คนที่มีความรู้ความสามารถเข้าไป แต่การคัดเลือกบอร์ดในอดีตไม่สามารถคัดเอาคนที่มีความรู้ความสามารถเข้าไปได้เพราะมีการล็อบบี้กัน”รศ.ณรงค์ กล่าว

คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้ประกันตนจะไปใช้สิทธิน้อย เพราะหน่วยเลือกตั้งที่จัดขึ้นไม่ได้พิจารณาว่าพื้นที่ไหนมีผู้ประกันตนหนาแน่นแค่ไหน ทำให้ผู้ประกันตนที่อยู่ห่างไกลไม่ไปเลือกตั้ง ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้แม้เป็นความหวัง และมีอะไรก็ต้องแก้ปัญหาให้ลงตัว แต่ก็อย่าไปหวังมาก
“ คนที่ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งมีจำนวนน้อยแต่มีอำนาจมาก คนจำนวนมากที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งแต่มีอำนาจน้อย ดังนั้นจึงต้องหาจุดลงตัวให้ได้ ที่สำคัญคือเงินกองทุนประกันสังคมกว่า 2.7 ล้านล้านบาท คนที่เอาไปใช้มากที่สุดคือรัฐบาลผ่านการขายพันธบัตรต่างๆ เรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบ”ดร.ณรงค์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้น่าจะได้คะแนนสักเท่าไรถึงชนะการเลือกตั้ง รศ.ณรงค์กล่าวว่า สัก 2 หมื่นคะแนนก็น่าจะได้ โดยคนที่มีฐานสหภาพจะได้เปรียบกว่าผู้สมัครอิสระ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่น่ากังวลคือข้อมูลข่าวสารต่างๆเกี่ยวกับการเลือกตั้งส่งไปถึงผู้ประกันตนน้อยมาก นอกจากนี้ยังไปตัดสิทธิผู้ประกันตนที่เป็นแรงงานข้ามชาติด้วยซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูก
นางสุนี ไชยรส รองประธานมูลนิธิพิพิธภัณฑ์แรงงานไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมถูกถ่วงเวลามาโดยตลอด การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีกระแสไม่เต็มใจเยอะ นำไปสู่การไม่เตรียมการที่ดี ทำให้กระบวนการในการรณรงค์ควรทำได้ดีกว่านี้ และมีผู้ประกันตนตกหล่นไปมาก เช่น ผู้ประกันตนที่เป็นแรงงานข้ามชาติ แรงงานนอกระบบ และผู้ประกันตนที่บ้านไกล ทำให้ฐานของหลักการอ่อนด้อยลง แทนที่จะมีพลังในการเตรียมการและรณงรงค์พูดถึงนโยบายของตัวเอง แต่จนถึงขณะนี้แทบไม่มีการเปิดเวทีให้ผู้สมัครได้แสดงวิสัยทัศน์
“รู้สึกเป็นห่วงไม่รู้ผลจะออกมาอย่างไร แม้ขลุกขลักอย่างไรแต่ก็ไม่ควรย้อนกลับไปสู่ระบบเดิม ควรยึดโยงกับการเลือกตั้งต่อไป บอร์ดใหม่ต้องกล้าทำงานร่วมกับสังคมเพราะระบบแข็งตัวมาก ต้องกล้าทำงานเพื่อเตรียมการต่างๆให้ดี เพราะมีวาระแค่ 2 ปี ต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าออกนอกกรอบ กล้าสร้างความเปลี่ยนแปลง”นางสุนี กล่าว
นางสุนีกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีผลกระทบต่อคนทั้งประเทศ เพราะเลือกทั้งผู้แทนผู้ประกันตนและฝ่ายนายจ้าง ส่งผลต่อกองทุนประกันสังคม ดังนั้นควรมีกระบวนการตรวจสอบการเลือกตั้ง เช่น การตั้งคนนอกร่วมสังเกตการเลือกตั้งหรือการนับคะแนน เหมือนกับการเลือกตั้งใหญ่เพื่อร่วมกันตรวจสอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
————–