Search

ลาวเผชิญความผันผวนด้านไฟฟ้า ความต้องการพุ่ง 45%แต่ผลิตได้ลดลงเหตุปริมาณน้ำในแม่น้ำลด-ต้องซื้อไฟจากไทยอื้อ

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 สำนักข่าวลาว Laotian Times รายงานว่าระบบการไฟฟ้าของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.)ลาว กำลังเผชิญความท้าทายครั้งสำคัญ เนื่องจากรายงานของกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ ระบุว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าของลาวเพิ่มขึ้นถึง 45 % ในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่การผลิตไฟฟ้ายังผันผวนเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าของลาวพุ่งทะลุความต้องการสูงสุดถึง 21% ตั้งแต่ปี 2564 โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 7 % ในช่วงปี 2022-2024

สำนักข่าวลาวรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของกระทรวงพลังงานฯว่า ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นโดยคาดไม่ถึงนี้มาจากการความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในอุตสาหกรรมเหมืองแร่คริปโต ซึ่งทำให้อุปสงค์การผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้วที่ไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำผลิตได้ต่ำมาก

ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 ลาวต้องนำเข้าไฟฟ้าจากไทย จีน และเวียดนาม กว่า 1.7 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง ขณะที่ประเทศส่งออกไฟฟ้าได้เพียง 994.8 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงไปยังกัมพูชา พม่า และไทย ในช่วงเวลาเดียวกัน ส่งผลให้ลาวขาดดุลการค้าไฟฟ้าสุทธิ 827.8 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง นอกจากนี้ ลาวพึ่งพาพลังงานน้ำจากเขื่อนไฟฟ้ากว่า 95% ซึ่งต้องอาศัยปริมาณฝนอย่างมาก แม้ในปีที่ฝนตกมากเช่นปี 2565 การผลิตไฟฟ้าเป็นไปตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดภาวะภัยแล้งในปี 2566 ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนลดลงถึง 10 % เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 และคาดว่าลดลงมากกว่า 10% ในปี 2567 ซึ่งคาดการณ์ว่าปริมาณไฟฟ้าจากเขื่อนอาจจะลดลงมากถึง 20%  ขณะที่ความต้องการไฟฟ้ากลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำนักข่าวลาวระบุอีกว่าเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลลาวกำลังพิจารณามาตรการระยะสั้น รวมถึงการปรับการใช้ไฟฟ้า การเก็บภาษีการขุดคริปโตเพิ่มขึ้นเพื่อลดการนำเข้าไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังได้วางแผนการใช้จ่ายและการอนุมัติโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วประเทศ และหาผู้ลงทุนในการโครงการเขื่อนใหม่ๆ เช่น เขื่อนน้ำงึม 3 ในระยะยาว ลาววางแผนที่จะมีการใช้แหล่งพลังงานที่หลากหลายในระบบ ด้วยการเพิ่มพลังงานจากถ่านหิน และพลังงานลมในแขวงคำม่วน สะหวันนะเขต และเซกอง รัฐบาลมุ่งหวังที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพระบบสายส่งไฟฟ้าเพื่อสร้างเสถียรภาพ และมีข้อเสนอว่ารัฐบาลลาวควรเร่งสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพื่อการส่งออกและแก้ไขนโยบายเพื่อให้การบริโภคไฟฟ้าภายในประเทศมีความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาสัมปทานสำหรับโครงการเขื่อนไฟฟ้าที่กำลังจะหมดอายุลง

ทั้งนี้ ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าจากสปป.ลาวมากที่สุด จำนวน 4,462 เมกะวัตต์ จากเขื่อนไฟฟ้าบนแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาจำนวน  10 เขื่อน และโรงไฟฟ้าถ่านหินหงสา 1 โรง โดยนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา ไทยได้ลงนามสัญญาซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนบนแม่น้ำโขงสายหลัก 3 โครงการและลำน้ำสาขา 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเขื่อนหลวงพระบาง โครงการเขื่อนปากลาย โครงการเขื่อนปากแบง และโครงการเขื่อนเซกอง 4 เอ 4 บี  มีอัตราราคาซื้อไฟเฉลี่ยที่ 2.7-2.8 บาท โดยขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน กำลังเปิดรับฟังความเห็นต่อร่างแผน PDP2024 จากภาคส่วนต่างๆ  ซึ่งในร่างแผนดังกล่าว ระบุการนำเข้าไฟฟ้าจากสปป.ลาว เพิ่มขึ้นอีก 3,500 เมกะวัตต์ ภายใน ปี 2580

On Key

Related Posts

ช้างยังป่วยหลังลงเล่นน้ำกก-แพ้เป็นผื่นมีตุ่มกลายเป็นแผล ผจก.ปางช้างกะเหรี่ยงรวมมิตรเผยนักท่องเที่ยวหาย 80% ศิลปินแต่งเพลงรณรงค์หยุดสารพิษ พบรายวันปลาแข้เป็นโรค-เร่งส่งตรวจ

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ที่ปางช้างกะเหรี่ยงรวมRead More →

ภาพถ่ายทางอากาศ“จิสดา”พบเปิดหน้าดินขนาดใหญ่กว่า 40 จุดที่ต้นแม่น้ำกก-น้ำสายใช้เวลาแค่ 2 ปีรุกป่าเหี้ยน ประธาน กมธ.ที่ดินจี้ใช้กลไกทางทหารเร่งหารือ-กต.ทำหนังสือประท้วงพม่าแล้ว

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ดร.พูนศักดิ์ จันทร์จำปRead More →

พบปลาป่วยในแม่น้ำโขงอีกเป็นตุ่มแดงตามครีบ-ปาก “ครูตี๋”เชื่อติดเชื้อจากลำน้ำสาขา กก-สาย-รวก ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ชาวประมงเผยไม่เคยเห็นอาการนี้มาก่อน ผู้เชี่ยวชาญแนะหาสาเหตุทำให้ปลาอ่อนแอ

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 นายปุ๊ คนจับปลาท่าหาดไRead More →

SHRF แฉพบเหมืองแร่หายากต้นแม่น้ำกก -เปิดหน้าดินวงกว้าง-เผยใช้สารเคมีรุนแรงเทละลายหินบนภูเขา เชื่อเป็นสาเหตุสารพิษในแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย นอกจากเหมืองทอง

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใRead More →