สังคมควรเชื่อใคร

สังคมควรเชื่อใคร….ฝ่ายหนึ่งเป็นชาวบ้านตัวเล็กๆในป่าเขา เคยมีความสุขกันตามอัตภาพและวิถีชีวิตดั้งเดิมตามที่บรรพบุรุษวางไว้ จึงไม่ได้ขวนขวายหาเงินทองมากมาย เพราะไม่มีความจำเป็นในชีวิต ขอเพียงให้มีที่ทำไร่ทำนาและพืชผักได้เก็บกิน 

เขาเคารพและสักการะป่าใหญ่ไม้ใหญ่ตามคำสอนของบรรพชน ทั้งคนและป่าจึงอยู่ร่วมกันด้วยดีตลอดมานับร้อยปี

อีกฝ่ายหนึ่งเป็นข้าราชการที่เติบโตมาด้วยความโลดโผน ทั้งชีวิตมีแต่คอยพินอบพิเทาอยู่กับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจวาสนา จนกระทั่งได้ดี และพยายามสร้างอาณาจักรของตัวเองให้เป็นผลงานอันงดงามโดยไม่สนใจสิ่งมีชีวิตที่อยู่มาเก่าก่อน ขอเพียงให้คนภายนอกได้เห็นแล้วเตะตาต้องใจ

เขาประกาศว่าตัวเองคือผู้อนุรักษ์ มีคฤหาสน์ใหญ่ในราวป่ากลับทำมาจากไม้ต้นใหญ่ๆ ภายในบ้านเต็มไปได้เฟอร์นิเจอร์ไม้แผ่นโตๆเป็นหลักฐาน

สังคมควรเชื่อใคร….ฝ่ายหนึ่งทุกวันนี้แทบไม่มีที่อยู่ที่กิน เพราะถูกแต้มสีให้เป็นพวก “ทำลายป่า” และถูกเผาเรือนเผายุ้งฉางเพื่อบังคับให้อพยพจากถิ่นลำเนาดั้งเดิม ทำให้ต้องอยู่อย่างยากลำบาก

อีกฝ่ายหนึ่ง เพียรสร้างความมั่นคงให้กับเก้าอี้ตัวเองและวางอำนาจเขื่องโข จนดูใหญ่โตอยู่ในกะลา เขามีวิธีการหลากหลายรูปแบบสำหรับจัดการกับคนที่ไม่เห็นด้วย

สังคมควรเชื่อใครดี….ฝ่ายหนึ่งไม่เคยเข้าใจหรือรู้จักการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของตัวเองให้สังคมใหญ่ได้รับทราบเลย แม้ว่าจะจะถูกกระทำอย่างหนักปานใดก็ตาม

อีกฝ่ายหนึ่ง มีสามารถใช้สื่อมวลชนเป็นอาวุธได้อย่างคล่องแคล่ว และถนัดกับการเลี้ยงดูปูเสื่อ เขาสร้างความสนิทสนมทุกวิถีทางกับนักข่าว แม้แต่คฤหาสน์หลังใหญ่ของเขาก็ให้การรับรองฐานันดรสี่และเหล่าผู้ทรงเกียรติมาแล้วหลายระรอก ทำให้ทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุใดๆ เขาจึงสามารถอธิบายความตามมันสมองก้อนโตได้อย่างปลอดโปร่ง เพราะไม่มีใครอยากตั้งคำถามกับเขามากนัก เนื่องจากความสนิทสนมและความไว้เนื้อเชื่อใจกันถึงขนาดมองข้ามข้อพิรุธทั้งหลาย

และ สังคมควรเชื่อใครดี….ฝ่ายหนึ่งเคยเป็นพรานใหญ่ที่ยึดถือสัจจะวาจามาทั้งชีวิตเป็นสำคัญ แต่อีกฝ่ายหนึ่งเป็นข้าราชการที่ลื่นไหลไปเรื่อยๆ เพื่อความเจริญก้าวหน้าของชีวิต

——————
ภาสกร จำลองราช
ขอบคุณภาพปู่คออี้ โดยคุณกฤณกรรณ สุวรรณกาญจน์
https://www.facebook.com/ginnagans?fref=photo