รัฐบาลผลักดันโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 8 หรือทางหลวงมอเตอร์เวย์ สายนครปฐม–ชะอำ ระยะทาง 109 กิโลเมตร โดยระหว่างเดือน ธันวาคม 2556 – มกราคม 2557 ได้มีเจ้าหน้าที่ของบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ดำเนินการออกแบบก่อสร้างโครงการฯ ลงพื้นที่สำรวจและวางหมุดตำแหน่งตลอดแนวพื้นที่ก่อสร้างถนนในเขตจังหวัดราชบุรี เพื่อเตรียมเวณคืนที่ดิน
น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง เปิดเผยว่าจากข้อมูลโครงการฯ ที่ภาคประชาชนสืบค้นพบว่า ถนนมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ จะเป็นระบบปิด มีรั้วรอบ และกำแพงเก็บเสียงสูง 3 เมตร โดยเป็นการสร้างขนานไปกับถนนเดิม แต่มีการปรับพื้นผิวสูงขึ้น 2.5-3 เมตร ซึ่งจะเท่ากับว่าถนนสายนี้จะเสมือนเป็นแนวเขื่อนคอนกรีตสูงประมาณ 6 เมตร จากระดับถนนเดิม เฉพาะที่จังหวัดราชบุรีจะมีพื้นที่ถูกเวณคืนและได้รับผลกระทบถึง 5 อำเภอ 18 ตำบล 59 หมู่บ้าน คือ อ.บางแพ อ.ดำเนินสะดวก อ.เมือง อ.วัดเพลง อ.ปากท่อ โดยคาดว่าจะสูญเสียพื้นที่ทางการเกษตรไป 5,890 ไร่ จากการการเวณคืนที่ดินทั้งหมด 7,000 ไร่ สิ่งปลูกสร้าง 252 หลัง
น.ส.อัญชุลีกล่าวว่า ภาคประชาชนได้ร่วมกันจัดเวทีสาธาณะให้ความรู้ “Motor Way คนราดรี จะได้อะไร” ในวันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2557 เวลา 16.00 น. ณ วัดคุ้งกระถิน จัดโดยเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง และชมรมคนรักบ้านสวน
“ที่ผ่านมาบริษัทได้เข้ามาทำเวทีประชุมกลุ่มย่อย 14 เวที เท่ากับเป็นการทำประชาพิจารณ์ความคิดเห็นตามระเบียนสำนักนายกรัฐมนตรี ข้อ 9 ซึ่งมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าชาวบ้านเห็นด้วยกับการสร้างมอเตอร์เวย์ นครปฐม-ชะอำ ภาคประชาชนจำเป็นต้องลุกขึ้นมาเรียกร้องเพื่อให้เกิดการเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงต่อชาวบ้าน เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีผลกระทบวงกว้าง ไม่เฉพาะบ้านเรือนเท่านั้น พื้นที่การเกษตรอันเป็นแหล่งผลิตอาหารสำคัญของภาคกลางก็จะได้รับผลกระทบด้วย อยู่ๆ ก็เข้ามาตัดต้นไม้ มาปักหลักมุด โดยที่กรมทางหลวงหรือบริษัทที่ปรึกษาไม่เคยบอกชาวบ้านหรือให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับโครงการเลย ทั้งที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ และอาจส่งผลกระทบรุนแรง รวมทั้งมีแนวโน้มว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการ”น.ส.อัญชุลี กล่าว
