ในวันที่ 16 พฤษภาคม เวลาประมาณ 13.00 น.กลุ่มคนรักบ้านเกิดซึ่งคัดค้ายการทำเหมืองแร่ทองคำ ในอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย จะเดินทางไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีถูกทำร้ายร่างกายโดยกลุ่มชายฉกรรจ์ติดอาวุธ หลังชาวบ้านการขัดขวางการขนแร่ซึ่งยุติการให้สัมประทานไปแล้ว
ทั้งนี้เมื่อคืนวันที่ 15 กลุ่มชายชุดดำติดอาวุธอย่างต่ำ 300 คน ได้จับชาบ้านและกักขังระหว่างขนแร่ออกไปบนเส้นทางชุมชนที่คัดค้านเหมือง และยังมีการทำร้ายร่างกายจนชาวบ้านได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 20 คน โดยมีเจ็บหนักต้องเอกซ์เรย์อย่างน้อยประมาณ 7 คน ทำให้สถานการณ์การขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มต่อต้านเหมืองทองคำจังหวัดเลยทวีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ
ด้านตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดที่ร่วมเฝ้าเวรยามกล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่กำลังเรียกประชุมเครือข่าย และบางส่วนไปเฝ้าอาการกลุ่มอาสาสมัครที่ถูกทำร้ายร่างกาย ชาวบ้านคาดว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่ทลายกำแพงกั้นพื้นที่การเดินรถบรรทุกแร่ในพื้นที่บริษัททุ่งคำ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการใหญ่และมีความขัดแย้งกับชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาชาวบ้านพยายามสื่อสารให้สื่อมวลชนรับทราบและร่วมรายงานข่าวในพื้นที่ แต่ทำได้ยากเพราะทางบริษัทมีผู้รักษาความปลอดภัยจำนวนมาก
“ระหว่างเกิดเหตุ มีบางคนโทรแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือจาก สถานีตำรวจวังสะพุง หลังจากนั้นมีตำรวจเดินทางเข้าพื้นที่เพียง 2 นายและอ้างว่าไม่สามารถกระทำการใดได้ เนื่องจากมีชายฉกรรจ์ปิดล้อมพื้นที่จำนวนมากชาวบ้านจึงจำเป็นต้องต่อสู้กันเอง แต่การต่อสู้มือเปล่าก็แพ้คนมีอาวุธ เราพึ่งใครก็ยาก พยายามสู้ด้วยตนเองมาตลอด ตอนนี้อยากให้สื่อมวลชนรับรู้เรื่องราวความรุนแรงที่เกิดขึ้นบ้าง เพื่อชาวบ้านจะได้ไม่เจ็บฟรี อย่างน้อยก็มีพื้นที่ร้องเรียน” ตัวแทนชาวบ้านกล่าว
อนึ่งการประกอบธุรกิจเหมืองแร่ทองคำ ในจังหวัดเลย ดำเนินการโดย บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ได้รับสิทธิในการสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำ และการประกอบโลหกรรม ตลอดจนใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน ตั้งแต่ประมาณปี 2533 โดยชาวบ้านร่วมคัดค้านมาโดยตลอด เนื่องจากลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์ที่นับว่าสะเทือนสังคมมากที่สุด คือ การที่ชาวบ้านได้ร่วมกันก่อกำแพงกั้นเส้นทางห้ามรถบรรทุกสารเคมีอันตราบผ่านทางสาธารณะของชุมชน ที่บ้านนาหนองบง และถูกทำลายหลายครั้ง ทำให้เกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ กลุ่มคนแปลกหน้าและชาวบ้านที่ต่อต้านอย่างต่อเนื่องทั้งนี้สรุปลำดับเหตุการณ์จากเว็บไซต์ เหมืองแร่เหมืองเลย (http://loeiminingtown.org/ ) โดยมีเหตุการณ์สำคัญหลังการปะกอบการดังนี้
ปี 2549 ชาวบ้านบริเวณบริเวณหมู่บ้านนาหนองบง, บ้านกกสะท้อน, บ้านภูทับฟ้า, บ้านห้วยผุก, บ้านโนนผาพุงพัฒนาและบ้านแก่งหิน ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงทางสภาพแวดล้อม และสุขภาพ
ปี 2550 จังหวัดเลยได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกำกับดูแลการทำเหมืองแร่และการประกอบโลหกรรมของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด คณะกรรมการได้ประชุมและมีมติให้บริษัท ทุ่งคำ จำกัด ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามแผนผังโครงการทำเหมือง และด้านกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ มีหนังสือให้อุตสาหกรรมจังหวัดเลย ทำการเปรียบเทียบปรับบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เนื่องจากได้ปล่อยให้มีปริมาณสารไซยาไนต์เจือปนในกากแร่ ก่อนนำไปกักเก็บในบ่อกากแร่สูงเกินมาตรฐาน ขณะที่ผลการตรวจสุขภาพของชาวบ้านโดยโรงพยาบาลวังสะพุง ใน 6 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านนาหนองบง, บ้านกกสะท้อน, บ้านภูทับฟ้า, บ้านห้วยผุก, บ้านโนนผาพุงพัฒนา, บ้านแก่งหิน ตำบลเขาหลวง โดยการสุ่มตรวจหาสารไซยาไนต์ เกือบ 300 คน
ปี 2551 กรมควบคุมมลพิษ ได้แจ้งผลการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำจากการจัดเก็บในลำน้ำห้วยเหล็ก พบว่ามีสารหนูสูงกว่ามาตรฐานคุณภาพน้ำผิวดินและเก็บในบริเวณลำน้ำในชุมชน ทำให้คุณภาพน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
ปี 2552 –2554 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย ออกประกาศเตือนว่าประชาชน ไม่ควรนำน้ำมาดื่มหรือใช้ประกอบอาหารโดยตรง รวมทั้งเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำมาตรวจในห้องปฏิบัติการพบมีปริมาณสารหนูสูงเกินกว่าค่ามาตรฐาน
ปี 2555 สันเขื่อนของบ่อเก็บกักกากแร่ของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด ด้านทิศเหนือเกิดการทรุดตัวและพังทลายลง โดยเกิดขึ้นตอนกลางของคันทำนบดินที่บดอัดแน่น ส่งผลให้มีสารเคมีเกิดขึ้นในพื้นที่สูงขึ้น
ปี 2556 –ปัจจุบัน ชาวบ้านร่วมสร้างกำแพงกั้นการขนส่งแร่ และเกิดความขัดแย้งกับบริษัทกระทั่งชาวบ้านหลายรายถูกดำเนินคดี และเกิดสถานการณ์ความปั่นป่วนในหมู่บ้านต่อเนื่อง
Post Views: 63