Search

ชาวบ้าน“เนินมะปราง”บุกศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกทวงความคืบหน้าคดีลอบยิงนักอนุรักษ์ “พิทักษ์ โตนวุธ”หวั่นโรงโม่หินฟื้นชีพอีก-ผวจ.ยันเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว

IMG_65647259358774

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น. ที่ศาลากลาง จ.พิษณุโลก ชาวบ้านประมาณ 150 คน จาก ต.ชมพู อ.เนินมะปราง ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการลอบสังหารนายพิทักษ์ โตนวุธ ที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ลุ่มน้ำคลองชมพู และเป็นแกนนำร่วมกับชาวบ้านในการคัดค้านการสัมปทานโรงโม่หิน

นายโม คำคูณ ประธานเครือข่ายฯ กล่าวว่า นายพิทักษ์ถูกลอบยิงเสียชีวิตเมื่อ 17 พฤษภาคม 2544 ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกับชาวบ้านคัดค้านสัมปทานโรงโม่หิน ของ บริษัทร็อกแอนด์สโตน และ บริษัทอนุมัติการศิลา ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาผาแดงรังกายที่ถูกผนวกรวมอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลุ่มน้ำวังทองฝั่งซ้าย กระทั่งปัจจุบันเวลาผ่านไป 13 ปีแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฏหมายได้ ชาวบ้านจึงมีข้อเรียกร้องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งผลักดันการแก้ไข ปัญหา 3 ข้อ

นายโมกล่าวว่า 1.ต้องเร่งดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดโดยไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลหรือ นักการเมืองใดๆ มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ 2.ต้องตรวจสอบโรงโม่อย่างต่อเนื่องเพราะยังมีเครื่องจักรเข้าไปปรับสภาพ พื้นที่อยู่ 3.ให้ยกเลิกการดำเนินการสร้างเขื่อนคลองชมพู และแผนการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท 4.เร่งดำเนินการสร้างความเข้าใจและผลักดันให้เกิดพื้นที่คุ้มครองทางสิ่งแวด ล้อมตาม พรบ.สิ่งแวดล้อม ปี 2535 โดยชุมชนที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้กำหนดและมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่

“13 ปีแล้วที่พิทักษ์ถูกลอบสังหาร จนลูกโตเป็นสาวคดีก็ยังไม่คืบหน้า อยากให้สังคมเห็นใจที่พวกเราซึ่งรอคอยความยุติธรรมมานาน คงต้องฝากความหวังในกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรองผู้กำกับคนใหม่ที่คิดว่าน่าจะมีความสามารถจับกุมคนร้ายได้ ปีที่แล้วพวกเราเคยมาเรียกร้อง เขาก็ได้รับปากไว้ว่าจะทำสรุปความคืบหน้าให้ชาวบ้าน แต่วันนี้ก็ยังไม่ได้รับเอกสารหรือความคืบหน้าใดเลย” นายโม กล่าว

นายเชาว์ เย็นฉ่ำ เลขานุการเครือข่ายฯ กล่าวว่า ในบริเวณพื้นที่ 35 ไร่ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนฯ ซึ่งในอดีต บริษัทอนุมัติการศิลาเคยเข้ามาดำเนินกิจการโรงโม่หิน และถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปแล้วนั้น ขณะนี้มีการนำเครื่องจักรเข้ามาปรับพื้นที่ เหมือนเตรียมเข้ามาดำเนินการบางอย่าง ชาวบ้านจึงเกิดความสงสัยและได้ไปตามเรื่องกับหน่วยงานต่างๆ จนพบข้อมูลว่า มีความพยายามขอออกเอกสารสิทธิ์ สค.4 ซึ่งได้มีการลงชื่อยินยอมโดยกำนันตำบลชมพู เพื่อนำเอกสารนี้ไปขอรังวัดให้ออกโฉนด ซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ ทำให้เกิดความกังวลว่าโรงโม่หินจะกลับมาอีกครั้ง

ด้านนายระพี ผ่องศุภกิจ ผู้ว่าราชการฯกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่รู้เรื่องความเป็นมากรณีการตายของนายพิทักษ์มากนัก กระทั่งเมื่อวานนี้ที่ชาวบ้านชมพูประสานมาว่าต้องการจะเข้าพบ จึงได้สอบถามข้อมูลจากทางตำรวจผู้รับผิดชอบคดี จึงรู้สึกเห็นใจในการเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการลุกขึ้นมาต่อสู้กับความไม่ ถูกต้อง และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับผู้ใดอีก นอกจากนี้ตนก็สงสารลูกสาวของนายพิทักษ์ที่ต้องกำพร้าพ่อ จึงอยากช่วยเหลือด้านการศึกษา และได้มอบหมายให้ปลัดที่ดูแล ให้ช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษาแก่เด็กด้วย

นายระพีกล่าวอีกว่า ในส่วนคดีจะประสานกับทางตำรวจให้เร่งติดตามจับกุมนายสุริยะ ขุนอุดร มือปืนที่ยังหลบหนีคดีอยู่ในขณะนี้มาดำเนินคดี โดยคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีที่อยู่ตามทะเบียนบ้านชัดเจน แม้ว่าจะยังตามตัวไม่พบ แต่เชื่อว่าถ้าตำรวจไปเฝ้าอย่างต่อเนื่องคนร้ายจะต้องกลับมาหาครอบครัวบ้างอย่างแน่นอน

นายระพีกล่าวอีกว่าโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองชมพู ภายใต้แผนการจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โครงการนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับรัฐบาลซึ่งฝ่ายการเมืองเป็นผู้ กำหนดนโยบาย ซึ่งกฏหมายระบุให้ข้าราชการเป็นผู้ปฏิบัติตาม แต่สถานการณ์การเมืองขณะนี้กำลังจะมีการเลือกตั้ง ถ้าชาวบ้านไม่อยากได้เขื่อนก็ขอให้ไปขับเคลื่อนเรียกร้องกับรัฐบาล เพราะจริงๆ จังหวัดเองก็ไม่อยากให้มีการทำโครงการใดๆ ที่ส่งผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากนี้เรื่องโรงโม่หิน จากการตรวจสอบเบี้องต้นพบว่า โรงโม่หินที่มีปัญหาทั้ง 2 แห่งนั้น ได้มีการเพิกถอนใบอนุญาติสัมปทานไปนานแล้ว และไม่ได้มีการออกใบอนุญาติใหม่แต่อย่างใด แต่เมื่อชาวบ้านร้องเรียนมา ก็จะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบให้อีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะที่พ.ต.อ.นิคม สุภาพร รอง ผกก.ภาค 6 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดียิงนายพิทักษ์ว่า ขณะนี้คดีอยูในชั้นศาล โดยศาลชั้นต้น และศาลอุธรมีคำพิพากษายกฟ้อง 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในความผิดฐานขับมอเตอร์ไซค์รับส่งผู้ก่อเหตุยิง ส่วนมือปืนคือนายสุริยะ ขุนอุดร ตำรวจกำลังเร่งจับกุม และได้ออกหมายจับ รวมทั้งส่งข้อมูลให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน 70 มือปืนอันตรายที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุด และมีการตั้งค่าหัวไว้ถึง 100,000 บาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุม

 

 

On Key

Related Posts

เหยื่อค้ามนุษย์ 9 ชาติยื่นหนังสือร้อง กสม.ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษย์ริมน้ำเมย ร่ำไห้วอนรัฐบาลไทยสกัดแก๊งมาเฟียจีน แฉถูกทรมานสารพัด สุดอนาถแม้แต่หญิงท้องยังถูกบังคับจนพยายามฆ่าตัวตาย

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ตัวแทนครอบครัวเหยื่อค้าRead More →