Search

ส่งเสริมเด็ก“ตาพระยา”เรียนภาษาเขมรผอ.รร.เผยเด็กมีปัญหาสัญชาติเพิ่มขึ้นทุกปีหวั่นระเบียบเข้ม-ไม่ได้เรียนมัธยมปลาย

image

นายจำเนียร พวงแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนซับม่วงวิทยา ตำบลโคคลาน อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการเปิดการอบรมภาษาเขมรเพื่อบุคคลทั่วไป ซึ่งสนับสนุนโดยคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเกือบ 100 คนประกอบไปด้วย นักเรียนระดับมัธยมต้น มัธยมปลาย อุดมศึกษาและบุคคลทั่วไป เพื่อศึกษาวัฒนธรรมภาษาและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน ในช่วงเปิดประชาคมอาเซียน (เออีซี) ว่าในพื้นที่ชายแดนการสื่อสารภาษาของประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตติดต่อกันกับประเทศไทยสำหรับเด็กโรงเรียนซับม่วงนั้น เป็นเรื่องยาก เพราะเด็กมีการสื่อสารภาษาอีสานมากกว่าภาษากลางทั่วไป อาจมีบ้างที่สื่อสารภาษาเขมรได้ แต่จะเป็นการพูดและฟังไม่ใช่อ่านเขียน 

นายจำเนียรกล่าวว่า ภาษาเขมรของคนตาพระยาจะเป็นภาษาเขมรคล้ายบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ แต่ก็ยังมีส่วนน้อยที่สื่อสารได้ โดยส่วนมากคนกัมพูชาที่เดินทางข้ามมาค้าขายและติดต่อแลกเปลี่ยนสินค้าจะสื่อสารภาษาไทยได้ดี แต่เด็กไทยกลับมีจุดอ่อนทางโรงเรียนจึงได้เพิ่มเวลาเรียนในชั่วโมงชมรมภาษาเขมร ให้นักเรียนที่สนใจได้ศึกษา และได้รับการสนับสนุนวิทยากรจากมหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษมและกลุ่มนักธุรกิจจากกรุงเทพฯ มาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว

นายจำเนียร กล่าวต่อว่า นอกจากปัญหาการใช้ภาษาแล้ว ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่พบในโรงเรียน คือ การรับนักเรียนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน บ้างตกหล่นการสำรวจ บ้างเป็นบุตรที่เกิดระหว่างแม่ หรือ พ่อ ชาวกัมพูชากับคนไทย แล้วผู้ปกครองไม่เข้าใจกฎหมายและไม่ไปแจ้งเกิดให้ลูก โดยขณะนี้มีประมาณ 10 คนจากนักเรียนทั้งหมดประมาณ 330 คน ที่ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและเป็นคนไทยโดยสมบูรณ์แบบ ทางโรงเรียนคาดว่าจะมีมาเพิ่มทุกปี และหากปล่อยไว้นานจะกลายเป็นภาระของโรงเรียนตลอดไปจึงอยากเร่งให้ความรู้เรื่องกฎหมายการแจ้งเกิดและขอสัญชาติกับผู้ปกครองในพื้นที่ชายแดน

“บ้างไม่มีบัตรประชาชน บ้างไม่มีใบเกิดมาสมัครลอยๆ ซึ่งช่วงมัธยมต้นเรียนได้ไม่มีปัญหา แต่หากผ่านเข้ามัธยมปลาย กฎหมายไทยเข้มงวดขึ้น อาจจะลำบากสำหรับอนาคตเด็ก ทางโรงเรียนพยายามหาช่องทางการแก้ไข ให้เด็กได้รับสัญชาติไทย บางคนโชคดีก็ตรวจดีเอ็นเอ จากพ่อแม่ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นคนไทย แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงมากประมาณ รายละ 5,000 บาทขึ้นไป ที่แย่กว่านั้นมีผู้ปกครองบางรายไม่เข้าใจกฎหมายเลย ก็ลงทุนจ้างเจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ บางคนก็ถูกเจ้าหน้าที่หลอกทำให้กระบวนการขั้นตอนซับซ้อน เสียเงินจำนวนมาก พอไม่มีเงินให้เจ้าหน้าที่ก็ขายชื่อให้คนอื่น เด็กทีมีปัญหาสถานะทางทะเบียนก็กลายเป็นเด็กส่วนเกินที่อยู่ในฐานะผู้อาศัย ตามทะเบียนบ้านของญาติ ซึ่งเด็กกลุ่มนี้โรงเรียนพยายามหาทางช่วยเหลือแต่ก็ยังไม่สามารถจัดหาองค์กรใดเข้ามาให้ความรู้เรื่องนี้ได้อย่างเป็นระบบ ” นายจำเนียร กล่าว

ดญ.แดง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ให้สัมภาษณ์ว่า แม่ของเธอเป็นชาวกัมพูชาพ่อเป็นคนไทย แต่เสียชีวิตไปนานแล้ว ตอนมาสมัครเรียนหนังสือชั้นประถม แม่ไม่ได้บอกว่าตนไม่มีใบเกิด ครั้นพอข้ามมาชั้นมัธยมถึงได้รู้ เมื่อโรงเรียนถามหาหลักฐานการสมัคร โดยขณะนี้แม่พยายามติดต่อญาติของพ่อเพื่อมาเป็นพยานบุคคลในการแจ้งเกิด แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับสักครั้งเข้าใจว่าญาติอาจไม่อยากช่วย แม่เองก็ยังไม่ได้รับสัญชาติไทยและไม่มีบัตรประชาชนไม่กล้าเดินทางไกล เราต้องอยู่แค่ในอำเภอตาพระยา เท่านั้นครูบอกเธอว่าอาจจะเรียนมัธยมปลายยากเพราะไม่มีบัตรประชาชน ส่วนแม่บอกว่าหากเรียนต่อไม่ได้คงต้องออกมาทำงานเมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

On Key

Related Posts

มาเฟียจีนกระเจิงหนีจากเมียวดี ระดับหัวหน้าหนีซุก กทม. บางส่วนหลบไปพะอัน-มัณฑะเลย์ ทางการแดนมังกรส่งรายชื่อไล่ล่า 5 ระดับบิ๊ก BGF ส่ง 200 คนให้แล้ว-รัฐบาลทหารพม่าขอเอี่ยวส่งชาวต่างชาติชเวโก๊กโก่ให้ไทย

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากชเวโก๊กRead More →

ทางการไทยไม่พร้อมรับชาวต่างชาตินับหมื่นในชเวโก๊กโก่ “ชิตตู”หวั่นภาระใหญ่หลังเปิดปฎิบัติการสำรวจคัดแยกตั้งแต่เช้า-เผยมีหญิงไทย 700 คนอยู่ในสถานบริการ “ศ.ปิ่นแก้ว”ระบุมาเฟียจีนระดับบอสหนีไปอยู่เมืองพะอันหมดแล้ว จี้รัฐตรวจสอบเส้นทางการเงิน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากเขตปกครRead More →

เวทีสุดท้ายรับฟังเขื่อนสานะคาม ชาวบ้านเรียกร้อง สปป.ลาว รับผิดชอบผลกระทบข้ามพรมแดน ด้านภาค ปชช. จัดเวทีคู่ขนานยุติเขื่อนแม่น้ำโขง-พัฒนาพลังงานทางเลือกแทน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมRead More →