
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2557 นางพรทิพย์ หงชัย ชาวบ้านกลุ่มรักบ้านเกิดซึ่งคัดค้านการทำเหมืองทอง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ให้สัมภาษณ์ว่า ภายหลังจาก ชาวบ้านได้ร่วมประชุมกับพล.ต.วรทัต สุพัฒนานนท์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก (ผบ.จทบ.) จังหวัดเลยเลย ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัด พร้อมด้วยนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยและตัวแทนบริษัททุ่งคำ ในฐานะผู้ประกอบการในพื้นที่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาการประกอบการเหมืองแร่ทองคำในตำบลเขาหลวง เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นั้น เวทีการประชุมได้นำข้อเสนอที่ชาวบ้านเคยเสนอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาเหมืองทองคำ มาเจรจากับผู้ประกอบการ โดยมีส่วนราชการเป็นตัวกลาง ซึ่งข้อเสนอสำคัญ คือ เสนอให้ปิดเหมืองทองและถอนฟ้องชาวบ้านที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลแต่ผลการประชุมยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก เพราะทางบริษัทไม่ยอมถอนฟ้องคดีความและยืนยันขอขนแร่ที่เหลือออกทั้งหมด แต่ที่ยอมประนีประนอมบางส่วนคือ ยอมรื้อถอนเครื่องจักบางส่วนออก และยุติการดำเนินการทำเหมือง ซึ่งเหตุการณ์ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง เพราะที่ผ่านมาเหมืองทองคำไม่ได้มีการถลุงแร่ แต่แค่พยายามขนแร่ออกโดยเร็วเท่านั้น
“การที่บริษัทอ้างว่าเป็นการยุติกิจการตลอดไปนั้น จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาล โดยตรงเป็นไปไม่ได้ เพราะหุ้นส่วนมากเป็นของเอกชน รัฐถือเพียงไม่กี่เปอเซนต์เท่านั้น ต่อไปนี้ชาวบ้านจะสู้บนทางของตัวเอง แต่ถ้าหากมีประชุมอีก ยินดีเข้าร่วม แต่อยากให้คณะกรรมการแก้ปัญหาจริงจังกับการแก้ปัญหามากกว่านี้” นางพรทิพย์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งคัดค้านเหมืองทองยังถูกข่มขู่อยู่เสมอ โดยล่าสุดมีคนโทรไปหาแกนนำบางรายว่าให้ระวังตัวให้ดี ขณะที่ชาวบ้านยังไม่ไว้ใจท่าทีของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ เพราะดูไม่โปร่งใสมากนัก โดยครั้งแรกที่ประชุมเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม นั้น ฝ่ายทหารเคยมีข้อสรุปว่าให้ชาวบ้านกับบริษัทเจรจาเพื่อหาแนวทางร่วมกัน แต่เสนอทางออกในฐานะคนกลางว่า หากชาวบ้านจะให้ปิดเหมืองทองถาวรนั้น ควรเปิดทางให้บริษัทเร่งขนแร่ออกนอกพื้นที่และขายยแร่ที่เหลือให้หมดจากนั้นำเงินมาเยียวยาชาวบ้าน ฟื้นผูชุมชน รวมทั้งแบ่งให้เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยปัญหาด้วย ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวไม่เป็นผลดีต่อชุมชน เพราะมีความเสียหายมานานหลายปี
ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดมีความพยายามจากบางฝ่ายให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านและบริษัทฯจบลงอย่างสวยงาม โดยมีทหารเป็นตัวกลาง ซึ่งเป็นข่าวในสื่อหลายสำนักนั้น โดยข้อเท็จจริงแล้ว ชาวบ้านคิดว่ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาใดๆเลย แม้จะมีข่าวลงหนังสือพิมพ์ แต่กลับเป็นความจริงคนละชุดที่ชาวบ้านได้รับ ดังนั้นชาวบ้านจึงยังต้องเดินหน้าต่อสู้กับบริษัทต่อไป