เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ขบวนเดินเท้า “ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน” จากอำเภอหาดใหญ่ไปกรุงเทพฯ เพื่อยื่นข้อเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เริ่มออกเดินเป็นวันที่ 2 ตามถนนสายเชียมุ่งหน้าไปยังแยกคูหา อำเภอรัตภูมิ โดยมีผู้ร่วมคณะประมาณ 20 คน
เวลา 12.00 น.ระหว่างที่ขบวนเดินเท้าหยุดพักรับประทานอาหารกลางวันในปั้มน้ำมันพีแอนซีปิโตเลียม ได้มีนายทหาร ตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ประมาณ 20 คนทั้งระดับผู้บังคับบัญชา อาทิ พ.อ.วรพล วรพันธ์ เสนาธิการมลทลทหารบกที่ 42 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายสัมพันธ์ เนตตกุล นายอำเภอรัตภูมิ เดินทางมาพบคณะเดินเท้า โดยพ.อ.วรพล ได้สั่งการให้ขบวนเดินเท้ายุติการเดิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการทำผิดกฎหมายที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน
“ทำไมพวกคุณไม่ไปใช้ช่องทางปฎิรูป เขาไม่จำกัดทุกเพศทุกวัย วิธีการที่พวกคุณทำกันอยู่นี่มันผิด ผมขอให้พวกคุณหยุดแค่นี้แล้วไปนั่งคุยกัน ผมจะเชิญผู้ว่าราชการฯมาร่วมด้วย พวกคุณอยากเสนออะไรก็ไปใช้ช่องทางที่ถูกต้อง รู้มั้ยบ้านเราตอนนี้ไม่มีใครเขาอยากมาเที่ยวแล้ว ผมเข้าใจสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่ แต่มันผิดกฎหมาย ผมไม่อยากบังคับใช้กฎหมาย หยุดตรงนี้แล้วไปหาช่องทางที่ถูกต้อง”พ.อ.วรพล กล่าว
พ.อ.วรพลกล่าวว่า ทุกคนต้องเข้าใจว่าตอนนี้การบริหารประเทศของคสช.อยู่ในระยะที่ 2 มีการแต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว และกำลังจะมีการคัดเลือกสภาปฎิรูปแห่งชาติ ซึ่งก็สามารถเอาปัญหาเหล่านี้เข้าไปได้ โดยหัวหน้าคสช.ไม่ชอบอะไรที่ทำผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้ร่วมขบวนเดินเท้าพยายามชี้แจงว่า การเดินขบวนครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องทางการเมือง และเป็นการทำด้วยใจบริสุทธิ์โดยได้เตรียมตัวกันมาระยะหนึ่งแล้ว ที่สำคัญคือไม่เคยเห็นคสช.เป็นศัตรู
“คสช.อย่ามาผูกขาดความรักชาติ วันนี้การเปิดใจกว้างเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเมื่อมีการปฎิรูป และข้อเรียกร้องของพวกเราก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ว่าราชการจะตอบได้ เช่น การให้ยกเลิกสัมปทานสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน จริงแล้วตรงนี้เป็นกระแสปฎิรูปที่คสช.ควรช่วยสร้างด้วยซ้ำ พวกเราพยายามไม่ทำผิดกฎหมายเพราะโทรโข่งก็ห้ามเราใช้ ขบวนเราก็จัดให้เหลือเล็กลงแล้ว ทุกคนต่างก็มีหน้าที่ เรามีหน้าที่เดินก็จะเดินต่อไป ถ้าท่านจับพวกเราก็ไปนอนอยู่ข้างใน ถ้าจะให้หยุดก็ต้องหยุดโครงการต่างๆตามที่เราเรียกร้อง”ผู้ประสานงานในทีมเดินเท้ารายหนึ่ง กล่าว
ทั้งนี้การพูดคุยเป็นไปอย่างเคร่งเครียดกว่า 1 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 13.25 น.จึงยุติลงโดยภาคประชาชนยืนยันว่าจะเดินหน้าทำกิจกรรมรณรงค์ต่อไป และยอมถูกควบคุมตัว นอกเสียจากว่าทหารจะยอมประกาศให้มีการยกเลิกโครงการขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านทุกโครงการ ซึ่งพ.อ.วรพลบอกว่าตนเองไม่มีอำนาจเช่นนั้น และตนขอทำตามหน้าที่
อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ร่วมขบวนเดินเท้ากำลังหารือกันอยู่
ขณะที่เวลา 14.00 น. คณะผู้ประสานงาน “ขาหุ้นปฎิรูปพลังงาน”ซึ่งประกอบด้วย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ นายศํกดิ์กมล แสงดาราและนายประสิทธิชัย หนูนวล ได้ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังจากที่มีคำสั่งจากฝ่ายทหารให้ยุติกิจกรรม โดยกล่าวว่าเรารวมตัวกันใช้ 2 เท้าเดินจุดหมายมุ่งกทม.เพื่อสร้างกระแสปฎิรูปพลังงานให้ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะรู้ว่าการปฎิรูปพลังงานเป็นเรื่องยาก แม้แต่คสช.ก็ไม่อาจทำได้ตามลำพัง โดยเฉพาะยกเลิกระบบสัมปทานและมาเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต เราจึงเดินด้วยหัวใจและสองเท้า และขณะนี้เจตจำนงของเรายังเหมือนเดิมคือเดินต่อไป เราทำตามหน้าที่ ทำตามความฝันและความคิด สิ่งที่เราทำไม่ได้ขัดต่อความสงบสุขของประเทศชาติ
“ช่องทางปฎิรูปเราใช้แน่นอน แต่เราก็ใช้ทุกๆช่องทาง เราไม่ได้คัดค้านอำนาจคสช. แต่ความร่วมมือของประชาชนคือหัวใจ พลังงานเป็นของพวกเราทุกคน ประเทศไทยมีพลังงานเยอะเพียงพอ แต่วันนี้คนไทยต้องใช้น้ำมันแพงที่สุด เราจึงเดินบอกว่าสิ่งที่ต้องทำคือการปฏิรูปพลังงาน เพราะพลังงานในประเทศไทยตกอยู่ในมือของคนอื่น พวกเราใช้ความพยายามเพื่อที่จะบอกทุกคนให้ช่วยกันปฏิรูปพลังงาน เพื่อประชาธิปไตยด้านพลังงาน สิ่งที่เกิดในวันหน้าเป็นเรื่องอนาคต” ผู้ประสานงานขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน กล่าว
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น ตำรวจและทหาร และรถประมาณ 10 คัน ได้เชิญตัวขบวนเดินเท้าประมาณ 15 คน ไปค่ายเสนาณรงค์แล้ว