เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม นายอานนท์ วาทยานนท์ ผู้ประสานงานกลุ่มเครือข่ายปกป้องเกาะแห่งชีวิต เกาะสมุย พะงัน เต่า หมู่เกาะอ่างทอง เปิดเผยภายหลังจากที่เครือข่ายฯได้รับไม้ต่อในการเดินเท้าของขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจากนครศรีธรรมราช ว่าสมาชิกขาหุ้นฯบนเกาะสมุยจะผลัดเปลี่ยนกันเดินเท้าเพื่อรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องพลังงานเป็นเวลา 3 วันคือตั้งแต่วันที่ 28-29-30 สิงหาคม โดยจะเดินรอบเกาะสมุยวันละประมาณ 18 กิโลเมตร ซึ่งจะเดินกัน 3-4 คนผลัดละราว 6 กิโลเมตร ทั้งนี้ในช่วงที่เดินผ่านชุมชนก็จะมีการแจกแผ่นพับและรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องพลังงาน อย่างไรก็ตามได้แจ้งในเบื้องต้นให้ทหารในพื้นที่ได้รับทราบแล้ว แต่นายทหารระดับสูงจะว่าอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายอานนท์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การขุดเจาะน้ำมันในอ่าวไทยซึ่งเป็นที่หวั่นเกรงของภาคประชาชนอยู่ในขณะนี้นั้น ตอนนี้มีอยู่ 2 แปลงที่น่าห่วงใยมากคือ 1.แปลงสัมปทานของบริษัทซาลามานเดอร์ใกล้าเกาะพงันซึ่งรอการอนุมัติด้านการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ ซึ่งครั้งที่แล้วถูกตีกลับเพราะเป็นห่วงในเรื่องผลกระทบการท่องเที่ยว แต่ขณะนี้ผ่านมาแล้วหลายเดือนจึงไม่ทราบว่าได้มีการอนุมัติไปหรือยัง แต่ขณะนี้บริษัทฯได้ลงพื้นที่และพูดคุยกับภาคการท่องเที่ยวโดยนำแผนปฏิบัติการมาให้ดูคล้ายเป็นสัญญาณว่าอีไอเอผ่านแล้ว
นายอานนท์กล่าวว่า 2.แปลงสัมปทานของปตท.ที่อยู่ใกล้หมู่เกาะอ่างทองและจังหวัดชุมพร โดยแปลงนี้น่ากังวลมากเพราะอยู่เหนืออ่าวบ้านดอน ถ้าหากเกิดมีการรั่วไหลจากการขุดเจาะจะทำให้ประมงชายฝั่งทั้งหมด รวมไปถึงการเลี้ยงปลากระชัง เลี้ยงหอย ต้องประสบความเสียหายหนัก ทั้งนี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาทางประชาชนในชุมพรได้มีการปิดล้อมแท่นเจาะ จนทำให้ปตท.ยอมถอนและย้ายไปขุดเจาะจุดอื่นก่อน ดังนั้นจึงไม่มั่นใจว่าเมื่อไหร่จะกลับมาขุดเจาะที่หลุมนี้อีก
อนึ่ง การเดินเท้าของเครือข่ายภาคประชาชน “ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน” ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม เริ่มที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แม้จะถูกควบคุมตัวสมาชิกบางส่วน แต่ก็ยังมีการเดินรับไม้ต่อกันเป็นทอดๆ เพื่อยื่นหนังสือไปยื่นแก่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่กรุงเทพฯ ซึ่งข้อเรียกร้องประกอบด้วย 1.เปลี่ยนระบบสัมปทานปิโตรเลียมเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต 2.ขอให้จัดตั้งบริษัทแห่งชาติเพื่อควบคุมปิโตรเลียมให้ประชาชนใช้ก่อนในราคาที่เป็นธรรม 3.ขอให้มีการแบ่งพื้นที่ปิโตรเลียมและพื้นที่ผลิตอาหาร-การท่องเที่ยวอย่างชัดเจนเพื่อการพัฒนาที่สมดุล4.ขอให้ปลดโรงไฟฟ้าถ่านหินจากแผนผลิตพลังงานไฟฟ้าดังที่นานาประเทศกำลังปฏิบัติ 5.ขอให้ผลักดันกฎหมาย พรบ.พลังงานหมุนเวียนโดยเร็ว