เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2557 เวลาประมาณ 08.00 น. ที่อาคารสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ ภาคประชาชนนำโดยเครือข่ายสลัม 4 ภาคกว่า 300 คน ได้ร่วมรณรงค์ให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ปัญหาเรื่องความมั่นคงทางที่อยู่อาศัยเนื่องในวันที่อยู่อาศัยสากล โดยตัวแทนชาวบ้านได้อ่านแถลงการณ์ ซึ่งเป็นการนำเสนอปัญหาและทางออกของคนจน คนไร้บ้าน คนเร่ร่อน โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย พลเอกสกล ชื่นตระกูล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นางรุจิราภรณ์ พลไทย ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายอำนวยการด้านที่อยู่อาศัย ยูเอ็น และนายเลิศปัญญา บูรณบัณทิต ผู้แทนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
สำหรับแถลงการณ์ระบุว่า เนื่องด้วยในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี องค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้เป็นวันที่อยู่อาศัยโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อรณรงค์ให้นานาประเทศตระหนักถึงความสำคัญ ของปัญหาการไร้ที่อยู่อาศัย และหามาตรการในการแก้ปัญหา เครือข่ายสลัม 4 ภาค และขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) จึงมีข้อเสนอที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการประกอบด้วยเนื้อหา 5 ส่วน คือ
- ด้านการสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงในที่จึงอยู่อาศัย เช่น อนุมัติงบประมาณ สนับสนุนโครงการบ้านมั่นคง ที่ดำเนินการโดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) เพื่อแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยให้กับคนจนเมือง อนุมัติงบประมาณ เพื่อดำเนินนโยบายที่อยู่อาศัยคนเร่ร่อนไร้บ้าน ตามโครงการชุมชนใหม่คนไร้บ้าน ฯลฯ 2. ด้านการกระจายสิทธิ์การถือครองที่ดิน และรับรองสิทธิ์การถือครองอย่างเป็นธรรม และยั่งยืน เร่ง ออกกฎหมายเก็บภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า และจัดตั้งธนาคารที่ดินเพื่อคนจน และเกษตรกรรายย่อย เป็นต้น
- ปฏิรูปกองทุนยุติธรรม โดยออกกฎหมายกองทุนยุติธรรม ให้คนจนมีโอกาสเข้าถึงสิทธิใน กระบวนการยุติธรรม 4. ให้รัฐบาลหยุดไล่รื้อ ตัดฟันผลอาสิน และชะลอการดำเนินคดี และ 5. เร่งแก้ปัญหาชุมชนที่อยู่ในกระบวนการแก้ปัญหาต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ให้มีกลไก และกระบวนการในการแก้ปัญหาต่อเนื่องเพื่อให้ได้ข้อยุติ เช่น กรณีเขื่อนปากมูน, กรณีคนไทยพลัดถิ่น, กรณีพื้นที่ที่ผ่านการเห็นชอบให้ดำเนินการตามนโยบายโฉนดชุมชน, โครงการ 5 พื้นที่นำร่องในการดำเนินการธนาคารที่ดิน เป็นต้น
ภายหลังการอ่านแถลงการณ์แล้ว ทางเครือข่ายฯ ยังได้มีการทำบุญกองผ้าป่ามอบเงินช่วยเหลือชุมชนคนไร้บ้านในเขตพุทธมณฑลสาย 4 ที่กำลังสร้างบ้านใหม่จำนวน 15 หลังคาเรือน โดยเงินกองทุนดังกล่าว เกิดจากการบริจาคของเครือข่ายภาคประชาชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการพัฒนาชุมชนในอนาคต ซึ่งทางชุมชนจะมีพิธีเปิดชุมชนอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ตุลาคม 2557 นี้
นายธเนศร์ จรโนทัย แกนนำคนไร้บ้าน กล่าวว่า กรณีการสร้างบ้านของชุมชนดังกล่าวนั้น งบประมาณส่วนมากได้รับการสนุบสนุนจากพอช. หลังคาเรือนละ 50,000 บาท เป็นบ้านเดี่ยว 7 หลัง บ้านเครือข่าย 8 หลัง เพื่อใช้รองรับคนจนไร้บ้านประมาณ 28 คน ซึ่งคนกลุ่มนี้เคยต่อสู้เรียกร้องขอให้รัฐช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่ ปี 2544 แต่ไม่ผ่านเกณฑ์การสร้างบ้านมั่นคง เนื่องจากมีการพัมนาด้านอาชีพที่ต่ำกว่ามาตรฐาน และขาดความเข้มแข็งของชุมชน แต่ภายหลังกลุ่มคนไร้บ้านมีการสร้างเครือข่ายออมทรัพย์ พร้อมทั้งร่วมกระบวนการพัฒนาสังคมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไม่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด เป็นเวลานานกว่า 5 ปี ทำให้การเสนอขอที่อยู่อาศัยสำเร็จ และเริ่มสร้างบ้านเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
“ เราดีใจที่วันนี้ พวกเราบางกลุ่มมีบ้าน หลังจากหลายคนเผชิญกับปัญหาครอบครัวแตกแยก และมีปัญหาชีวิตที่สะสมมานาน ปัจจุบันพวกเราเหมือนมีชีวิตใหม่ หลายคนไม่เคยได้นอนใต้หลังคาก็จะมีโอกาสได้พักในที่อยู่อาศัยที่ถูกต้องตามกฎหมาย พวกเราตกลงกันในกลุ่มว่าหลังสร้างบ้านเสร็จ จะรวมตัวกันสร้างอาชีพที่เข้มแข็ง ส่วนมากมีอาชีพค้าขายเสื้อผ้ามือสอง และขายขนม เก็บของเก่า ในอนาคตถ้ามีกองทุนพัฒนาอาชีพเพิ่ม เราอาจปรับรูปแบบชุมชนใหม่ อย่างน้อยปีนี้ก็ถือเป็นฤกษ์ดีในการเริ่มต้นชีวิตภายใต้ที่อยู่อาศัยของชุมชน ไม่ใช่บนสะพาน หรือข้างถนนต่อไป“ นายธเนศร์ กล่าว
ข่าวแจ้งว่าก่อนการตั้งกลุ่มรณรงค์ ตัวแทนเครือข่ายฯ ได้เจรจาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารและพนักงานรักษาความปลอดภัยหลายครั้งเพื่อขอทำกิจกรรมหน้าสำนักงานยูเอ็น แต่ไม่ได้รับอนุญาต จึงต้องย้ายมาบริเวณข้างๆ คลองผดุงเกษม ฝั่งใกล้กับกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ฯ คอยดูแลความเรียกร้อยประมาณ 100 นาย และเจ้าหน้าที่บางกลุ่มนำรั้วเหล็กมากั้นบริเวณให้ตัวแทนทำกิจกรรมแค่ในฟุตบาธข้างคลองผดุงเกษมเท่านั้น