Search

ชาวบ้านคอนสารโอดถูกรัฐรังแกอีก เจ้าหน้าที่นับร้อยไล่รื้อชุมชนโคกยาว แกนนำจวกไร้ความยุติธรรม

10933166_864318580278095_1207090336_n
ภาพโดย เครือข่ายภาคประชาชน คอนสาร

 

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นางอรนุช ผลภิญโญ ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ที่ผ่านมาได้มีทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และฝ่ายปกครองจำนวนกว่า 100 คนเดินทางไปยังบ้านโคกยาว ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ เพื่อตรึงกำลังแน่นติดป้ายคำสั่งให้อพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ภายใน 15 วัน ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เกี่ยวกับนโยบายแผนแม่บททวงคืนพื้นที่ผืนป่าฉบับที่ 64/2557 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการทำลายทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งกำหนดให้มีการไล่รื้อผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ป่า ชาวบ้านมองว่าเป็นการคืนความทุกข์ให้กับประชาชนตัวเล็กๆ มากกว่ามุ่งแก้ปัญหาที่ดิน ขณะนี้ชาวบ้านยังกังวลและเป็นห่วงเรื่องดังกล่าวอยู่

“ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 33 ครัวเรือน ทั้งหมดเคยถูกคำสั่งให้อพยพมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้งและมีคำสั่งให้รื้อถอน และตัดพืชสวน พืชไร่ที่ปลูกโดยเร็ว เนื่องจากทับพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม เนื่องจากส่วนมากไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่ประชาชนยืนยันเช่นเดิมว่า เป็นที่มรดกที่ดินที่บรรพบุรุษมีมาให้ ซึ่งส่วนมากมีอาชีพเกษตรกรรม และที่ผ่านมาเราก็เคยคุยไปแล้ว กับสำนักนายกรัฐมนตรี ในการประชุมขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม(พีมูฟ) รวมทั้งยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและหน่วยงานหลายแห่ง เพื่อให้ระงับแผนและระงับการปฏิบัติการ หรือการใช้ใบแจ้งเตือน หรือคำสั่งในลักษณะการบังคับดีเพื่อไล่รื้อชาวบ้านก่อน เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมหรือกระบวนการใช้แผนปฏิรูปที่ดินและป่าไม้ที่มีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายได้ใช้ แต่ล่าสุดก็กลับไม่มีใครให้ความสำคัญ แล้วคนที่ทุกข์ คือ คนจนเช่นเดิม” นางอรนุช กล่าว

นายเด่น คำแหล้ อายุ 65 ปี ชาวบ้านโคกยาวที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า ในอดีตนั้น ตนมีที่ดินทำกินที่ปู่ ย่า ตายาย มอบให้ประมาณ 25 ไร่ ทำกินมาตั้งแต่ปี 2511 แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 6 ไร่ เพราะที่ดินส่วนหนึ่งถูกยึดคืนไปปลูกยูคาลิปตัสในช่วงที่มีการรณรงค์กันในอดีต จึงเหลือไว้ทำประโยชน์แค่ 6 ไร่เท่านั้น ตนจึงแบ่งเป็นพื้นที่ปลูกมะม่วง ปลูกข้าวโพด ถั่ว โดยพยายามจัดสรรที่ดินให้เกิดประโยชน์ที่สุด แต่รัฐบาลกลับไม่เข้าใจความรู้สึกของชาวบ้าน เร่งรัดจัดการแบบไม่มีเหตุผล ซึ่งตนยอมรับว่าเสียใจกับการกระทำของหน่วยงานด้านการปกครองมาก ที่ดินของตนและเพื่อนบ้านนั้นแม้จะไม่มีเอกสารสิทธิแต่ที่ดินกลับถูกใช้สอยอย่างเป็นประโยชน์เพื่อการยังชีพในชุมชน ไม่ได้เก็งกำไรแบบธุรกิจใหญ่ อยากให้ราชการเข้าใจและขอให้ชะลอแผนไปก่อน

 

ภาพโดย เครือข่ายภาคประชาชน คอนสาร
ภาพโดย เครือข่ายภาคประชาชน คอนสาร

“เมื่อก่อนเราก็ถอยนะ 10-20 ปีที่แล้ว ที่รัฐบาลมีนโยบายปลูกยูคาลิปตัสในที่ดินรัฐ เราเคยมี 25 ไร่ เพื่อนบ้านคนอื่นก็เช่นกัน แต่อยู่ๆ รัฐจะมาบอกว่าให้ทิ้งบ้าน ทิ้งสวน ไร่ นา ไปอยู่บ่อแก้ว แล้วเราจะเอาอะไรกิน ชาวบ้านในพื้นที่บางคนยังต้องทำมาหากินในเขตอิทธิพลด้วยซ้ำ เราไปเราก็จะตายกับตายเท่านั้น ไม่มีประโยชน์ใดๆ เพิ่มเข้ามา ครั้งนี้มันรุนแรงเกินไปแล้วที่นำกำลังเข้ามาไล่รื้อเรา หรือเราต้องตายกันก่อนรัฐจึงจะพอใจ ทุกวันนี้เสียน้ำตา แบกทุกข์แทบอดตายก็ยังไม่เคยมีใครเห็นใจ เพราะคนจนคือทาสเสมอ” นายเด่น กล่าว

ด้านนายเหลาไท นิลนวล ผู้ประสานงานสมัชชาชาวนา ชาวไร่ ภาคอีสาน กล่าวว่า หลังจากมีการประชุมร่วมกับ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในที่ประชุมพีมูฟมีมติร่วมกันว่าเรื่องแผนแม่บทฯ นั้นให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงกรณีข้อพาททางที่ดินระหว่างประชาชนกับภาครัฐ เพราะกรณีนี้มีพี่น้องภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบจำนวนมาก ส่วนเรื่องการนำคำสั่งของคสช.เกี่ยวกับแผนทวงคืนที่ภาคประชาชนเสนอให้ยุติการบังคับใช้ประกาศนั้น ทางที่ประชุมมีมติให้ องอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานเพื่อชะลอการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง โดยกระบวนการสรรหากรรมการดังกล่าวยังไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่วันนี้เครือข่ายประชาชนที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลับต้องเผชิญความเสี่ยงอีกแล้ว ทำให้ชาวบ้านยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องการนำไปสู่ความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะมีการประชุมเพื่อวางแผนกันต่อไป

“ที่ดินของชาวบ้านโคกยาวที่ถูกไล่รื้อและเจ้าหน้าที่นำคำสั่งมาติดป้ายไว้นั้น ส่วนมากเป็นที่ดินแบบ ภบท.5 กำหนดให้ชาวบ้านต้องเสียเงินบำรุงท้องที่ ในที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเราตั้งใจว่าจะใช้พื้นที่ดังกล่าวออกเป็นโฉนดชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านทำกินและมีส่วนร่วมในการจัดสรรทรัพยากร เหมือนกับที่บางหมู่บ้านที่เชียงใหม่ แต่แผนดังกล่าวยังไม่ลุล่วง ฝ่ายความมั่นคงก็เข้ามาปฏิบัติการอีก สะท้อนว่าขาดความยุติธรรมและใช้อำนาจเกินเหตุ” นายเหลาไท กล่าว

///////////////////

On Key

Related Posts

มาเฟียจีนกระเจิงหนีจากเมียวดี ระดับหัวหน้าหนีซุก กทม. บางส่วนหลบไปพะอัน-มัณฑะเลย์ ทางการแดนมังกรส่งรายชื่อไล่ล่า 5 ระดับบิ๊ก BGF ส่ง 200 คนให้แล้ว-รัฐบาลทหารพม่าขอเอี่ยวส่งชาวต่างชาติชเวโก๊กโก่ให้ไทย

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากชเวโก๊กRead More →

ทางการไทยไม่พร้อมรับชาวต่างชาตินับหมื่นในชเวโก๊กโก่ “ชิตตู”หวั่นภาระใหญ่หลังเปิดปฎิบัติการสำรวจคัดแยกตั้งแต่เช้า-เผยมีหญิงไทย 700 คนอยู่ในสถานบริการ “ศ.ปิ่นแก้ว”ระบุมาเฟียจีนระดับบอสหนีไปอยู่เมืองพะอันหมดแล้ว จี้รัฐตรวจสอบเส้นทางการเงิน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 แหล่งข่าวจากเขตปกครRead More →

เวทีสุดท้ายรับฟังเขื่อนสานะคาม ชาวบ้านเรียกร้อง สปป.ลาว รับผิดชอบผลกระทบข้ามพรมแดน ด้านภาค ปชช. จัดเวทีคู่ขนานยุติเขื่อนแม่น้ำโขง-พัฒนาพลังงานทางเลือกแทน

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ห้องประชุมโรงแรมRead More →