
เมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม 2558 ที่อาคารรัฐสภา เวลาประมาณ 09.00 น. ชาวบ้านประมาณ 100 คน จากหลายจังหวัด ได้เดินทางมารวมตัวกันเพื่อคัดค้านการนำเสนอร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.) ป่าชุมชน ฉบับของคณะกรรมาธิการปฏิรูป(กมธ.)ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะมีการพิจารณาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) โดยมีการทำพิธีสาปแช่งกลุ่มบุคคลที่สนับสนุน
ทั้งนี้ตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นหนังสือต่อนายปราโมทย์ ไม้กลัด ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม สปช. เพื่อแสดงจุดยืนและเหตุผลต่อการไม่เห็นด้วยต่อการพิจารณากฏหมายดังกล่าว โดยหนังสือระบุถึงเหตุผลสำคัญในการคัดค้าน พรบ.ป่าชุมชน ว่า 1.กฎหมายป่าชุมชนเป็นกฎหมายส่งเสริม ยิ่งชุมชนหันมาจัดการป่าชุมชนมากเท่าไรยิ่งเกิดผลดีต่อการรักษาป่าไม้ของประเทศมากเท่านั้น ดังนั้น พ.ร.บ.ป่าชุมชน ควรสร้างแรงจูงใจให้ชุมชน
2.ร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชน ซึ่ง กมธ.ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติฯ เสนอ ล้าหลังไปไกลมาก(อำนาจรัฐเป็นใหญ่) ดังนั้น ควรแก้ไขเนื้อหารับรองสิทธิชุมชนให้สอดคล้องกับร่างรัฐธรรมนูญที่ สปช. กำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้ 3.รายงานของ กมธ. มีป่าชุมชนแล้ว 9,500 แห่ง แต่หากร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนฉบับนี้บังคับใช้จริง จะเหลือป่าชุมชน เฉพาะพื้นที่ป่าสงวน ไม่เกิน 5,000 แห่ง เนื่องจากป่าชุมชนอีก 4,500 แห่ง อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ที่ประกาศไปแล้ว 4.ควรสนับสนุนให้ประชาชนจัดตั้งป่าชุมชนได้ทุกพื้นที่ที่ประชาชนอยู่มาก่อนแล้ว(ไม่ใช่เข้าไปใหม่) รวมทั้งที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หากเจ้าของที่ดินนั้นอนุญาต
5.การศึกษาของ กมธ. ที่ระบุว่า ในต่างประเทศไม่มีการอนุญาตให้จัดตั้งป่าชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์นั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและเป็นการอธิบายไม่หมดเพราะสาเหตุที่ไม่มีการอนุญาตให้จัดตั้งป่าชุมชนในพื้นที่อนุรักษ์นั้น เพราะว่าในต่างประเทศ มีกฎหมายรับรองสิทธิของชุมชนพื้นเมือง ในการจัดการป่าไม้และทรัพยากรอยู่แล้ว 6. ประเทศไทย มีการประกาศเขตอุทยาน เขตอนุรักษ์ ฯลฯ ทับชุมชนดั้งเดิมที่อยู่อาศัยมาก่อน เป็นจำนวนมาก โดยยังไม่มีการกันพื้นที่ออก ซึ่งเป็นชุมชนของชนพื้นเมืองดั้งเดิม ที่มีวิถีชีวิตวัฒนธรรมผูกพันกับธรรมชาติ มีภูมิปัญญาในการอนุรักษ์ทรัพยากรอย่างยั่งยืน มีงานวิจัยจำนวนมาก แต่ สปช.ไม่หยิบยกมาอ้างอิงในรายงาน
7.การเสนอทำแผนที่ 1: 4,000 เพื่อแก้ปัญหาป่าไม้และที่ดินนั้น ในรายงานไม่ได้ระบุผลของโครงการจัดทำแผนที่ฐานในการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ที่ดิน (โครงการรีเชฟ) ซึ่งมีการใช้งบประมาณ จากกองทุนสิ่งแวดล้อมจำนวน 2356.80 ล้านบาท (ในปี 2552- 2555) ดังนั้น ควรให้มีการศึกษาทบทวน ปัญหาการใช้งบประมาณในการทำแผนที่ตามโครงการฯ ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหายต่อบ้านเมืองต่อไป
ทั้งนี้เวลาประมาณ 12.00 ภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปราย ปรากฏว่าในที่ประชุม สปช. ได้มีการถอนร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน ฉบับดังกล่าวออกจากการพิจารณา ด้วยเหตุผล คือ 1.ร่าง พรบ.ป่าชุมชน ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการทั้ง 3 ฝ่าย คือด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ และด้านทรัพยากรธรรมชาติก่อน 2.เป็นร่างกฏหมายที่มีความขัดแย้งมานาน 3.ต้องการให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ จึงมีข้อสรุปให้ถอนการพิจารณาร่าง พรบ.ฉบับนี้ออกวาระการประชุมในวันนี้ก่อน



