เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2558 นางธัญญา ตันตระกูล ชาวบ้านตำบลโพนสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย และเป็น 1 ในชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบจากการประกาศเขตพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ของคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนและตัวแทนชาวบ้านหลายตำบลร่วมกันเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดหนองคาย เพื่อขอให้เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดของโครงการเขตพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหนองคายให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ เนื่องจากจังหวัดหนองคายที่ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของโครงการ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 13 ตำบล ของ 2 อำเภอ รวมถึงการที่มีภาคเอกชนบางรายอ้างต่อชาวบ้านว่า โครงการนี้ได้มีการดำเนินกระบวนการศึกษาผลกระทบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมีความกังวลถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น และความไม่โปร่งใสของการดำเนินโครงการ เนื่องจากชาวบ้านยืนยันว่าไม่เคยมีหน่วยงานใดลงมาให้ข้อมูล และไม่เคยมีการขอความคิดเห็นต่อโครงการ
นางธัญญา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่า รัฐบาลกำลังจะผลักดันให้มีเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษขึ้นในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา เครือข่ายภาคประชาชนได้นำข้อมูลของโครงการมาเปิดเผยในเวทีประชุมสภาองค์กรชุมชนจังหวัดหนองคาย ซึ่งได้มีการเชิญหน่วยงานภาครัฐให้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ปรากฏว่าในเวทีไม่มีหน่วยงานภาครัฐมาเข้าร่วมเลย เนื่องจากมีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ห้ามไม่ให้หน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมในเวทีดังกล่าว
นางธัญญากล่าวต่อว่า ข้อมูลที่ได้นำมาเปิดเผยและร่วมหารือในเวทีจึงเป็นข้อมูลที่ภาคประชาชนหรือชาวบ้านต่างสืบค้นมาด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้รับรู้เพียงภาพรวมของโครงการ ว่าในเขตพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหนองคายนั้น จะประกอบไปได้วย 3 โซนหลัก คือ 1.ภาคการขนส่ง 2.ภาคการท่องเที่ยว 3.ภาคการเกษตร จึงทำให้ทุกคนมีความสับสนและกังวลต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะยังขาดข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง จึงต้องการเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐเร่งเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน และต้องการให้ชี้แจงกระบวนการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจว่ามีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร
“ตอนนี้เราไม่รู้เลยว่าการขนส่งสินค้าที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนเชื่อมสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษจะเป็นรูปแบบไหน นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่จะเป็นอย่างไร พื้นที่เกษตรที่กำหนดให้เป็นเขตผลิตอาหาร จะเป็นการส่งเสริมระบบเกษตรของชุมชนหรือเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมเกษตรรายใหญ่ แล้วชุมชนจะมีส่วนร่วมกับเขตเศรษฐกิจพิเศษได้อย่างไร” นางธัญญา กล่าว
นางธัญญา กล่าวอีกว่า ในวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา ตัวแทนชาวบ้านได้เดินทางไปที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดหนองคาย เพื่อขอตรวจสอบข้อมูลและขอคำชี้แจงต่อการบังคับใช้ผังเมืองรวมว่าจะดำเนินการอย่างไรเมื่อถูกกำหนดให้เป็นเขตพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งชาวบ้านได้รับคำชี้แจงว่า แม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่สีเขียวที่กำหนดให้เป็นที่ดินอนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม แต่เมื่อถูกกำหนดให้เป็นเขตพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษแล้ว การบังคับใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองรวมจะต้องถูกยกเลิก
นางธัญญา กล่าวต่อว่า จากนั้นในวันที่ 13 สิงหาคม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ. ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเครือข่ายความร่วมมือเขตเศรษฐกิจพิเศษ กิจกรรมสัมมนาการลงทุนเขตเศรษฐกิจพิเศษไทย-ลาว ที่โรงแรมรอยัลนาคารา จังหวัดหนองคาย ซึ่งในที่เวทีมีการประกาศว่าจะมีสร้างนิคมอุตสาหกรรมขนาด 2,960 ไร่ ในเขตพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ชาวบ้านจึงได้มีการสอบถามเรื่องนี้ในที่ประชุมว่า การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมได้มีดำเนินการศึกษาผลกระทบแล้วหรือไม่ โดยมีการชี้แจงกลับมาว่ากระบวนการศึกษาผลกระทบได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถไปถามสอบถามข้อมูลได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลแต่ละพื้นที่ จึงทำให้ชาวบ้านรู้สึกตกใจอย่างมาก เนื่องจากทุกคนยืนยันว่าไม่เคยมีการเข้ามาทำกระบวนการประชาพิจารณ์หรือขอความคิดเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่ทั้งสิ้น
“เราถามไปที่ อบต. ก็ยืนยันว่ายังไม่มีการทำการศึกษาผลกระทบ เราก็ทำหนังสือไปที่ กนอ. เพื่อขอทราบความคืนหน้าการทำนิคมอุตสาหกรรม ก็ได้รับคำตอบไม่ชัดเจนว่าอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ ตอนนี้ชาวบ้านแทบจะไม่รู้เลยว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมีโครงการอะไรเกิดขึ้นบ้าง ผลกระทบต่อแม่น้ำโขง ต่ออากาศ ต่อพื้นที่เกษตรจะเป็นอย่างไร” นางธัญญา กล่าว
อนึ่ง จังหวัดหนองคายเป็น 1 ใน 5 จังหวัด ที่ถูกกำหนดเป็นพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ได้แก่ หนองคาย นราธิวาส เชียงราย นครพนม และกาญจนบุรี โดยพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย จะครอบคลุมพื้นที่ 13 ตำบล คือ ตำบลค่ายบกหวาน ตำบลในเมือง ตำบลบ้านเดื่อ ตำบลพระธาตุบังพวน ตำบลโพธิ์ชัย ตำบลโพนสว่าง ตำบลมีชัย ตำบลเวียงคุก ตำบลสีกาย ตำบลหนองกอมเกาะ ตำบลหาดคำ ตำบลหินโงม อำเภอเมืองหนองคาย และ ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร
————