เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 พลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำกิน และพื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเล เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ตนได้ประชุมและรายงานสถานการณ์ปัญหาชาวเล (อูรักลาโว้ย มอแกลน มอแกน) ทั้ง 5 จังหวัดอันดามัน ร่วมกับทีมที่ปรึกษาของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี (รมว.) กลาโหม โดยมีนายถวิล เปลี่ยนศรี หัวหน้าคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เป็นประธานการประชุม ซึ่งตนได้นำเอกสารรายงานการประชุมแต่ละครั้งของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชาวเลฯ และเอกสารพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องการออกโฉนดโดยไม่ชอบธรรมเพื่อเสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาชาวเลทั้งประเทศ โดยยึดหลักจริยธรรมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และขอความร่วมมือให้รัฐบาลศึกษาปัญหาชาวเลในภาพรวม โดยเริ่มที่ชุมชนหาดราไวย์ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ร่วมตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานแล้วว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ดินชุมชนเดิม โดยรายละเอียดของที่ดินแต่ละแปลงที่ผ่านการพิสูจน์แล้วนั้น ดีเอสไอพร้อมจะนำเสนอชุดข้อมูลทั้งหมด และรัฐบาลต้องเปิดใจยอมรับความจริงว่า ที่ผ่านมาการบริหารทรัพยากรที่ดินบางส่วนผิดพลาด เมื่อผิดพลาดแล้วก็ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า ควรเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบ
พลเอก สุรินทร์ กล่าวด้วยว่า ตนได้เร่งรัดด้วยว่าให้รัฐบาลสั่งการกระทรวงยุติธรรมให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และใช้วิจารณญาณในการตรวจสอบหลักฐานทุกอย่างอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่แค่โฉนดหรือ นส.3 ปัจจุบัน ทั้งนี้สำหรับกรณีชาวเลราไวย์ จังหวัดภูเก็ต ที่ถูกคุกคามทำร้ายร่างกายนั้น ตนได้อธิบายให้เห็นถึงการตกเป็นพลเมืองชั้นสองของชาวเล ที่ถูกทำร้ายร่างกายแต่คดีความไม่คืบหน้า ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้สักคนเดียว ซึ่งนายถวิลได้รับปากว่า จะเสนอพลเอก ประวิตร ให้รับทราบเรื่องนี้โดยเร็ว และเชื่อว่าเรื่องชาวเลถูกทำร้ายเป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับความคืบหน้ากรณีที่ดินบริษัทบารอน เวิร์ล เทรด ที่มีข้อพิพาทกับชาวเลราไวย์ในขณะนี้นั้น ทางดีเอสไอ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเปรียบเทียบกับแผนที่ทางอากาศ และได้ผลอย่างไร ดีเอสไอจะเปิดเผยภายหลัง แต่เบื้องต้นทราบว่า มีความผิดปกติในการออกเอกสารสิทธิ์เช่นกัน แต่ในส่วนนี้กระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ เบื้องต้นจึงได้รายงานที่ประชุมว่า กรณีบริษัท บารอนฯ ให้รอกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วรัฐบาลค่อยตัดสินใจอีกครั้ง แต่กรณีที่ดินเอกชนบางรายที่พิสูจน์แล้วว่าออกเอกสารสิทธิ์มิชอบธรรม แล้วเอกชนยังอ้างกรรมสิทธิ์ฟ้องร้องให้ชาวเลออกจากพื้นที่นั้น ทางรัฐบาลควรเร่งรัดให้มีการเพิกถอน ซึ่งอาจจะต้องใช้อำนาจศาล
อนึ่ง ก่อนการประชุมทีมที่ปรึกษา รศ.ดร.มรว.อคิน รพีพัฒน์ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิชุมชนไท ได้ลงนามในหนังสือถึงนายถวิล เปลี่ยนศรีและ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร พร้อมส่งข้อมูลการศึกษากรณีที่ดินชาวเลราไวย์ จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย หนังสือคลายปมที่ดินคนจน หนังสือวิกฤตชาวเล และหนังสือ 80 ปี อคิน รพีพัฒน์ โดยฝากข้อความถึงทีมที่ปรึกษารองนายกฯ ว่า
“กระผมได้ติดตามข่าวกรณีกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลบ้านราไวย์ถูกทำร้าย และทราบข่าวว่า ท่านทั้งสองเป็นทีมที่พิจารณากลั่นกรองเรื่องราวกรณีพิพาทที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเลบ้านราไวย์ กระผมได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยรพีพัฒน์ศักดิ์ ลงพื้นที่ศึกษาและแนวทางแก้ไขกรณีที่ดินคนจน5พื้นที่ ซึ่งชุมชนชาวเลราไวย์เป็น1 ใน5 พื้นที่ศึกษา พร้อมจัดทำหนังสือ รายงานการวิจัยกระบวนการยุติธรรม ….คลายปม “คดีที่ดินคนจน” รวมทั้งหนังสือวิกฤตชาวเล และหนังสือ 80 ปี อคิน รพีพัฒน์ ที่มีเรื่องราวชาวเลราไวย์ จึงขออนุญาตส่งข้อมูลมายังท่าน และอำนวยพรให้ท่านประสบความสำเร็จในภารกิจอันสำคัญนี้
///////////////////