พล.อ.บอ จ่อ แฮ รองผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) กล่าวขณะพบปะสื่อมวลชนจากไทยและพม่า ว่า การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อย่างเขื่อนฮัตจี จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงขึ้นในรัฐกะเหรี่ยง
“เราเริ่มรู้ว่าจะมีการก่อสร้างเขื่อนฮัตจีตั้งแต่ปี 2006 แต่ยังไม่มีการก่อสร้างเกิดขึ้น ตอนนี้เราทราบแล้วว่าฐบาลได้ลงนามตกลงในการสร้างเขื่อนในในปี 2014 พื้นที่ของโครงการยังคงอยู่ในการควบคุมของเคเอ็นยู หากสิ่งที่เราทราบมาเป็นความจริง จะทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง” พล.อ.บอ จ่อ แฮ กล่าว
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเผยว่า เคเอ็นยูไม่เคยได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างเขื่อนดังกล่าว และแม้ว่าจะยังไม่มีการก่อสร้าง แต่ก็มีการประกาศเคลียร์พื้นที่เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว
“เรามีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ ประการแรกคือ การบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ประการที่สองคือ การเจรจาทางการเมือง และสุดท้ายคือการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาเมกกะโปรเจ็ค แต่รัฐบาลพม่าได้เริ่มเมกกะโปรเจ็คก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงในการหยุดยิง ผลที่ตามมาของโครงการนี้สามารถส่งผลเสียต่อทุกด้าน และเราก็ไม่สามารถยอบรับได้” พล.อ.บอ จ่อ แฮ กล่าว
รองผู้บัญชาการทหารเคเอ็นแอลเล เปิดเผยว่า ขณะนี้ กองทัพพม่ากำลังสร้างถนนและเพิ่มกำลังพลเข้าไปในพื้นที่สร้างเขื่อน นอกจากนี้ยังได้รวมถึงส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่ ทหารพม่าได้เคลียร์พื้นที่เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ลงสามารถลงจอดในพื้นที่ได้แล้ว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างอยู่กันอย่างหวาดกลัว
เคเอ็นยู ได้มีการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาลพม่าในปี 2012 และแม้ว่ารัฐบาลพม่าได้ตกลงยอมรับจุดประสงค์สามข้อของเคเอ็นยู ทว่าแต่ละข้อก็ยังไม่มีการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
เขื่อนฮัตจี ตั้งอยู่ที่จังหวัดไลบเว รัฐกะเหรี่ยง เป็นโครงการผลิตพลังงานไฟฟ้ากำลังผลิต 1,360 เมกะวัตต์ โดยมีการลงนามตกลงระหว่างกระทรวงพลังงานพม่าและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น ไฟฟ้าที่ผลิตได้ส่วนใหญ่จากเขื่อนฮัตจีจะถูกส่งไปที่ประเทศไทย
แปลจากบทความภาษาพม่า เขียนโดย โดย น่อยยิ่นเอ
Eleven Media 20 พ.ย. 57
http://tinyurl.com/lfvpo4e