พรรคเสือเผือก หรือ พรรคประชาธิปไตยแห่งชาติไทใหญ่ (Shan Nationalities Democratic Party – SNDP) ได้ออกมาประกาศจะไม่ลงแข่งเลือกตั้งในเขตเมืองน้ำคำ ทางเหนือของรัฐฉาน เพื่อเปิดทางให้พรรคหัวเสือ หรือ พรรคสันนิบาตแห่งชาติไทใหญ่เพื่อประชาธิปไตย (Shan Nationalities League for Democracy -SNLD) พรรคการเมืองไทใหญ่อีกพรรคหนึ่งนำโดย เจ้าขุนทุนอู ลงแข่งเพียงพรรคเดียว ระบุไม่อยากให้ชาวไทใหญ่ต้องแบ่งคะแนนเสียงโหวตให้กับทั้งสองพรรคการเมืองไทใหญ่ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับทั้งสองพรรค
จายทุนหล่าย เลขาธิการพรรคเสือเผือกเปิดเผยว่า ได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับทางพรรคหัวเสือแล้ว และทางพรรคหัวเสือก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ โดยระบุ เหตุที่ตัดสินเป็นเพราะจัดลำดับความสำคัญของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของพรรค โดยจะร่วมทำงานกับพรรคหัวเสือเพื่อเป็นตัวแทนภาคสังคม ศาสนาและพัฒนาผลประโยชน์ของท้องถิ่น ขณะที่หลังพรรคเสือเผือกได้ออกมาประกาศเรื่องนี้ มีความคิดเห็นจากชาวไทใหญ่แตกต่างกันออกไป บางส่วนเรียกร้องให้พรรคเสือเผือกทบทวนการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนหนุ่มสาวไทใหญ่ 11 กลุ่มในเมืองนำคำได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน สนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าว ทั้งนี้ ก็เพื่อไม่ให้คนไทใหญ่ต้องมาแบ่งคะแนนเสียงให้กับทั้งสองพรรค นอกจากนี้ยังออกมาประณามกิจกรรมใดๆ ที่สร้างความแตกแยกในหมู่ชาวไทใหญ่
ขณะที่ในเขตเลือกตั้งในเมืองน้ำคำ นอกจากมีพรรคการเมืองไทใหญ่แล้ว ยังมีพรรครัฐบาล USDP พรรคฝ่ายค้าน NLD และพรรคสหภาพแห่งชาติ(National Union Party) คาดว่าจะลงเลือกตั้งด้วย ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2556 ทั้งสองพรรคการเมืองไทใหญ่ได้พิจารณาเกี่ยวกับการรวมพรรคเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งในปลายปีนี้ ทั้งนี้ พรรค SNLD ต้องถูกยุบพรรคในปี 2553 เช่นเดียวกับพรรค NLD ที่ไม่ยอมลงเลือกตั้งใหญ่ปี 2553 เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และเนื่องจากขณะนั้น ผู้นำพรรคหลายคนยังคงถูกคุมขังอยู่ในคุก
ในการเลือกตั้งเมื่อ 25 ปีก่อน พรรคหัวเสือ SNLD ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 รองจากพรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี โดยหลังผู้นำพรรคหัวเสือได้รับการปล่อยตัว ทางพรรคได้กลับมาจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองอีกครั้งและประกาศจะลงเลือกตั้งในปี 2558 ขณะที่พรรคเสือเผือกก่อตั้งขึ้นในปี 2553 นำโดยจายอ้ายเปา การก่อตั้งพรรคขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของชาวไทใหญ่ลงเลือกตั้งในปี 2553 ซึ่งพรรคสามารถคว้าที่นั่งในสภามาได้ทั้งหมด 58 ที่นั่ง สมาชิกบางส่วนของพรรคเสือเผือก เคยเป็นสมาชิกพรรคหัวเสือมาก่อน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองพรรคการเมืองไทใหญ่ต่างเปิดสำนักงานพรรคและพบปะกับประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วรัฐฉานและในภูมิภาคอื่นๆของประเทศที่มีคนไทใหญ่อาศัยอยู่หนาแน่น ซึ่งฐานคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของทั้ง 2 พรรคอยู่ในรัฐฉาน
ที่มา DVB