เมื่อวันที่ 3 นายจำนง หนูพันธุ์ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ตุลาคม 2558 นี้ เป็นวันที่อยู่อาศัยโลก (world habitat day) ทางเครือข่ายสลัมฯจากทั่วประเทศจะเดินทางไปรวมตัวกันที่อาคารสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้วเดินทางต่อไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลได้วางนโยบายการบริหารที่ดินเพื่อคนจน คนรายได้น้อยและเร่งรัดให้รัฐบาลเดินหน้าเรื่องการตั้งธนาคารที่ดินและโฉนดชุมชนในพื้นที่นำร่องซึ่งทางขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟเคยเสนอมาแล้วทุกปี
นายจำนงกล่าวว่า สถานการณ์ในปัจจุบันพบว่าประชาชนคนจนเมืองถูกกระทำมีจำนวนมาก โดยจากข้อมูลตั้งแต่ต้นปี 2558 ถึงเดือนกันยายน 2558 มีชุมชนที่ถูกไล่รื้อจำนวน 5 ชุมชน 223 หลังคาเรือน ส่วนมากเกิดจากการพัฒนาของรัฐที่พยายามไล่รื้อคนจนซึ่งไม่ได้อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐแต่อาศัยอยู่ในพื้นที่เอกชน ซึ่งจะมีโครงการพัฒนาผ่านเข้ามา ส่งผลให้คนจนถูกไล่รื้อออกจากที่ดังกล่าว เช่น ที่ดินบริเวณใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าที่ดินมีราคาสูงขึ้น ชุมชนที่เช่าที่เอกชนอยู่จึงประสบปัญหาการให้เลิกเช่าที่ เนื่องจากเจ้าของที่ดินต้องการให้เช่า หรือขายให้กับภาคธุรกิจ ซึ่งในหลายๆ ครั้งกลายเป็นข้อพิพาทเกิดขึ้น อย่างเช่นกรณีชุมชนตลาดบ่อบัว ถูกบริษัทบ่อบัวพัฒนา ไล่ที่โดยใช้เจ้าหน้าที่ที่ทหารและตำรวจ
นายจำนง กล่าวว่าเหตุการณ์ล่าสุดของรัฐบาลที่ประกาศนโยบายปรับปรุงริมคูคลองในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชุมชนริมคลองทั้งหมดถึง 9 แห่งประกอบด้วย 1. คลองลาดพร้าวคลองสอง 2. คลองเปรมประชากร 3.คลองสามวา 4. คลองลาดบางบัวขาว 5. คลองประเวศบุรีรัมย์ 6. คลองพระโขนง 7. คลองบางซื่อ 8. คลองบางเขน 9. คลองพระยาราชมนตรี โดยจะเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดทบทวนโครงการดังกล่าวแล้วหันมาบริหารที่ดินที่ช่วยให้คนจน คนรายได้ต่ำมีสิทธิอยู่อาศัยได้
“โครงการไล่รื้อคลองทั้งหมดที่รัฐบาลประกาศมา เสี่ยงต่อการผลักดันประชาชนคนจนเมืองให้กลายเป็นคนไร้บ้านมาก ดังนั้นถึงเวลาที่รัฐบาลควรจะเปิดใจยอมรับการแก้ปัญหาอย่างยุติธรรมเสียที ไม่ใช่เอะอะก็ไล่ชาวบ้าน ชาวสลัม การรณรงค์วันที่อยู่อาศัยโลกปีนี้ยังคงมีการจัดกิจกรรมเช่นเดิม คือนอกจากยื่นข้อเสนอแล้ว เราจะตั้งกองผ้าป่าสมทบทุนช่วยเหลือชุมชนคนจนที่ถูกไล่รื้อ และคนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการพัฒนาของภาครัฐ รวมทั้งกลุ่มคนจนที่มีข้อพิพาททางที่ดินกับเอกชน” นายจำนงค์ กล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่องค์กรด้านสิทธิที่อยู่อาศัยหรือ Housing rights task force (HRTF) ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ปี2558 นี้ ชุมชนในกรุงพนมเปญ ประมาณ 11 ชุมชนที่ถูกรัฐบาลสั่งไล่รื้อเพื่อขายที่ดินให้กับนายทุนชาวจีน เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย เพื่อลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนในพนมเปญจำนวนมากกลายเป็นคนไร้บ้านและมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงเรื่อยๆ ในโอกาสวันที่อยู่อาศัยโลกปีนี้ ทางองค์กร HRTF จึงได้ประสานงานกับเครือข่ายคนจนในกรุงพนมเปญ เพื่อรณรงค์ให้รัฐบาลกัมพูชามีมาตรการแก้ปัญหาและช่วยเหลือคนจนที่ไร้ที่อยู่อาศัย โดยอาจจะยื่นหนังสือให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่ดินของกัมพูชาเพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาการครอบครองที่ดินของต่างชาติด้วย โดยคาดว่าจะมีตัวแทนชุมชนที่ถูกไล่รื้อจากกัมพูชาเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 25 ชุมชน
เจ้าหน้าที่จากองค์กร HRTF กล่าวด้วยว่า ช่วงที่ผ่านมาชุมชนสลัมบึงก๊อก มีชาวกัมพูชา 15 ครอบครัว ถูกไล่รื้อเพื่อการก่อสร้างอพาร์ทเม้นจากบริษัทของจีน ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านมีสภาพจิตใจย่ำแย่ และเผชิญกับภาวะความเครียด ที่ดินในพนมเปญ ขณะนี้ราคาพุ่งสูงถึงตารางเมตรละ 4,000 ดอลลาร์ และรัฐบาลกำลังเปิดโอกาสให้ต่างชาติที่มีรายได้มั่นคงเข้ามาซื้อบ้านอยู่ที่พนมเปญแล้ว
///////////////////////////////