องค์กรภาคสังคมไทใหญ่ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน แสดงความเป็นห่วงสถานการณ์สู้รบในรัฐฉาน หลังกองทัพพม่าได้โจมตี ทหารไทใหญ่เหนือ พรรครัฐฉานก้าวหน้า/กองทัพรัฐฉานเหนือ (SSPP/SSA) อย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขตเมืองสู้และเมืองหนอง ทางภาคกลางของประเทศ ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยสงครามมากกว่า 1,500 คน จาก 4 หมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่สู้รบต้องทิ้งบ้านเรือน ไร่นาของตน
ชาวบ้านมากกว่า 1,000 คน ได้หนีภัยสงครามไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวตามหมู่บ้านใกล้เคียง ส่วนชาวบ้านอีกหลายร้อยต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในป่า โดยชาวบ้านเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครอง และขณะนี้กำลังขาดแคลนอาหาร ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ในแถลงการณ์ระบุอีกว่า ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสงครามยังไม่สามรถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรได้ในฤดูกาลเก็บเกี่ยวปีนี้
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.กองทัพพม่าได้ยิงปืนใส่ฐานบัญชาการใหญ่ของ SSPP/SSA “บ้านไฮ” ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเกซี นอกจากนี้ยังเพิ่มกำลังเข้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวทางทหารเช่นนี้ ทำให้เกิดความกังวลกันว่า ทหารพม่าจะใช้ปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดิน และเมื่อวานนี่้ (14 ต.ค.)ทางกองทัพพม่าได้โจมตีทหารไทใหญ่ SSPP/SSA อีกในเขตเมืองต้างยาน ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้มีผู้ลี้ภัยสงครามเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ ทางกลุ่มองค์กรไทใหญ่ได้โจมตีกองทัพพม่า โดยเฉพาะการกระทำที่ยิงปืนใหญ่ใส่หมู่บ้านของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ระบุ เป็นการปฏิบัติการทางทหารที่ทำมาในช่วงหลายปีมานี้ เพื่อต้องการยึดเขตพื้นที่ควบคุมของ SSPP/SSA โดยการกระทำของกองทัพ “ตั้ดมะด่อว์” เช่นนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกันไว้เมื่อปี 2555 รวมถึงแสดงให้เห็นชัดว่า รัฐบาลเนปีดอว์ไม่สนใจใช้วิธีเจรจาทางการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เป็นวิธีการที่ทางฝ่ายพม่าทำมาหลายสิบปีในการเข้ายึดครองดินแดนกลุ่มชาติพันธุ์โดยใช้กำลังบังคับ ระบุการลงนามหยุดยิงที่ทำอยู่ในขณะนี้ เป็นวิธีการแบ่งแยกแล้วปกครอง ขณะที่กองทัพพม่าสงบศึกกับอีกกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ในเวลาเดียวกันก็ทำสงครามกับอีกกลุ่มชาติพันธุ์
กลุ่มองค์กรไทใหญ่เรียกร้องให้นานาชาติเข้ามากดดันกองทัพพม่าให้ยุติโจมตีและถอนทหารออกจากเขตพื้นที่ชาติพันธุ์ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้นานาชาติยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามเหล่านี้ผ่านองค์กรท้องถิ่นไทใหญ่ มีรายงานว่า พรรคหัวเสือได้เดินทางเข้าไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยบางส่วน 608 คน ที่อยู่ที่อยู่ตามวัดและตามหมู่บ้านในพื้นที่ นางก๋องคำ คณะกรรมการพรรคหัวเสือจากเมืองสู้เปิดเผยกับสำนักข่าว Tai TV Online ว่า ผู้ลี้ภัยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก มีทั้งชาวไทใหญ่และชาวปะหล่อง ผู้ลี้ภัยขาดแคลนทั้งอาหาร เสื้อผ้า ผ้าห่มและรองเท้า และขณะนี้ในพื้นที่มีอากาศหนาวมาก
นางก๋องคำยังกล่าวว่า รู้สึกสะเทือนใจกับภาพของผู้ลี้ภัยที่เป็นเหยื่อสงคราม โดยเรียกร้องให้ทั้งทหารพม่าและทหารไทใหญ่ SSPP/SSA ยุติดการสู้รบโดยเร็ว ทั้งนี้ก็ทำเพื่อประชาชน นอกจากนี้มีรายงานว่า ทาง SSPP/SSA ได้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามเป็นเงิน 5 ล้านจั้ต(ประมาณ 136.955 บาท) ขณะที่องค์กรไทใหญ่อื่นๆกำลังหาทางช่วยเหลือต่อไป ด้านชาวไทใหญ่ในจังหวัดเชียงใหม่นัดรวมตัวกันในเย็นวันนี้ (15 ต.ค.)เวลา 19.00 น.ที่วัดกู่เต้า อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อจุดเทียนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากสงครามในรัฐฉาน ขณะที่อีกด้านหนึ่งในวันนี้ 8 กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ได้ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับรัฐบาลพม่าที่กรุงเนปีดอว์
ที่มา แถลงการณ์จาก Shan Community Based Organizations/Tai TV Online