
ประชาชนในรัฐชิน 4,000 คน ยังไร้บ้านจากเหตุดินถล่มเมื่อเดือน ก.ค.- ส.ค.ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้ยังต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นรับปากจะสร้างบ้านใหม่ให้ผู้ประสบภัยธรรมชาติเหล่านี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า
แม้ทางรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐชินจะประกาศว่าจะสามารถหาพื้นที่สำหรับสร้างบ้านใหม่ให้กับผู้ประสบภัยได้แล้ว แต่ก็พบว่าอยู่ในพื้นที่เขตชนบทและไม่มีถนนเข้าถึง รวมถึงยากต่อการขนส่งอุปกรณ์ที่จำเป็นในการก่อสร้าง ซึ่งนาย อูติน หม่องโซ ผู้อำนวยการรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐชินให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลนั้นวางแผนที่จะสร้างบ้านให้ชาวบ้านก่อนที่จะถึงหน้าหนาวนี้ แต่ก็ประสบความยากลำบากในการขนส่งอุปกรณ์ เนื่องจากถนนที่เชื่อมเข้าไปในรัฐชินถูกทำลายทั้งหมดและยังได้รับความเสียหาย

มีรายงานว่า ทางการเตรียมสร้างบ้านใหม่ให้ชาวบ้านในเมืองฮักคา เมืองหลวงของรัฐชิน จำนวน 736 หลัง และในเมืองเทดิมอีก 46 หลัง โดยค่าใช้จ่ายสำหรับบ้านสำหรับอยู่อาศัย 4 คน จะใช้ค่าใช้จ่ายจำนวน 4.4 ล้านจั้ต (ประมาณ 120,800 บาท)ส่วนบ้านสำหรับอยู่อาศัยจำนวน 3 คน จะใช้ค่าใช้จ่าย 3.7 ล้านจั้ต(ประมาณ 101,590 บาท) มีรายงานว่า ชาวบ้านบางส่วนในเขต โตน ซาง ได้สร้างบ้านเอง โดยได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 1 ล้านจั้ตหรือ 1.5 ล้านจั้ต (ประมาณ 27,449 บาท – 41,174 บาท)
ทั้งนี้ นักธรณีวิทยาได้เตือนว่า พื้นที่ที่เคยเกิดดินถล่ม เสี่ยงที่จะเกิดดินถล่มอีกในอนาคตหากมีฝนตกหนัก ขณะที่ชาวบ้านอย่าง นายพี รัม ซิง วัย 48 จากหมู่บ้านเมียว ฮวง กล่าวว่า เขาและเพื่อนบ้านไม่ต้องการที่จะย้ายออกจากบ้านของตัวเอง แม้บ้านจะได้รับความเสียหายจากดินถล่มครั้งล่าสุดก็ตาม “ผมอยากอยู่ที่นี่จริงๆ เพราะผมเกิดที่นี่ ผมกลัวว่าทางการจะบังคับให้พวกเราทิ้งบ้านของตัวเอง” เขากล่าว
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนสนับสนุนแผนสร้างบ้านในพื้นที่แห่งใหม่ อย่างไรก็ตามบางส่วนแสดงความเป็นห่วงว่าจะไม่สามารถหาพื้นที่เพาะปลูกหรือทำเกษตรกรรมบนพื้นที่แห่งใหม่ได้ โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว นอกจากไร้บ้านแล้ว ยังไม่มีงานทำอีกด้วย
ที่มา Myanmar Times