
กระบอกเสียงของกองทัพพม่า “สำนักข่าวเมียะวดี” รายงานว่า ระหว่างวันที่ 6 – 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้ปะทะกับทหารไทใหญ่เหนือ SSPP/SSA ใกล้กับฐานบัญชาการใหญ่บ้านไฮถึง 37 ครั้ง โดยยังรายงานว่า พบร่างของทหาร SSPP/SSA ที่เสียชีวิต 7 นาย โดยยอมรับว่ากองทัพพม่าก็สูญเสียแต่ไม่เปิดเผยว่า มีทหารเสียชีวิตกี่นาย
ขณะที่ทางโฆษกของ SSPP/SSA เปิดเผยว่า มีทหารพม่าเสียชีวิตมากกว่า 30 นาย แต่ก็ไม่เปิดเผยเช่นกันว่ามีทหารไทใหญ่สูญเสียเท่าไหร่ โดยเมื่อวันที่ 20 ตตุลาคมที่ผ่านมา ทางกองทัพพม่ายังคงเพิ่มกำลังทหารอีก 1,000 นายเข้ามาในพื้นที่สู้รบ ด้าน SSPP/SSA ยืนยันจะต่อสู้เพื่อปกป้องตนเอง โดยยังพบการสู้รบกันต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (21 ตุลาคม)เวลา 16.04 น.ได้เกิดเหตุระเบิดใกล้กับวัดแห่งหนึ่งในเขตตัวเมืองสู้ ทางภาคกลางของรัฐฉาน เป็นเหตุให้มีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เป็นหญิงชรา 1 ราย และเด็กหญิง 1 ราย สามเณรอีก 2 รูป ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าอ้างว่า เหตุระเบิดอาจมีความเชื่อมโยงกับทหารไทใหญ่ SSPP/SSA โดยจะดำเนินการสืบสวนต่อไป ด้านชาวบ้านในเมืองสู้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Tai TV ออนไลน์ว่า ขณะนี้ชาวบ้านกำลังหวาดกลัวกับเหตุสงครามที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยเหตุระเบิดเช่นนี้ ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
ขณะที่อีกด้านหนึ่ง กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาล 8 กลุ่ม ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันร้องขอให้รัฐบาลพม่าส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้พลัดถิ่นภายใน(IDP) อย่างเร่งด่วน อีกทั้งเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองทั้งหมด ซึ่งรวมถึงนักศึกษาที่ถูกจับ ทั้งนี้พบมีผู้ลี้ภัยจากสงครามในรัฐคะฉิ่นจำนวน 150,000 คน รัฐกะเหรี่ยงมากกว่า 100,000 คน รัฐฉาน 20,000 คน และในรัฐชิน 500 คน
ส่วนเมื่อเร็วๆนี้ ทางการไทย พม่า และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยตามชายแดนไทย-พม่าได้หารือเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยจากพม่าที่อยู่ในประเทศไทย โดยทั้งหมดเห็นด้วยที่จะสนับสนุนให้ผู้ลี้ภัยได้กลับบ้าน โดยเห็นว่า หลังลงนามหยุดยิง สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-พม่า นั้นดีขึ้นมาก โดยเฉพาะในรัฐกะเหรี่ยง
ที่มา Tai Freedom/DVB/Indepenent Non News Agency/Tai TV Online
แปลและเรียบเรียงโดย Transborder News