เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558 ชาวบ้าน จังหวัดสตูล กว่า 1,000 ราย เข้าร่วมขบวนรณรงค์คัดค้านโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเป็นวันนัดหมายเคลื่อนขบวนครั้งใหญ่จากลานกิจกรรมกัวลาบารา ไปยังศาลากลาง จ.สตูล เพื่อแสดงจุดยืนต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล คนใหม่โดยใช้เวลาเคลื่อนขบวนนานกว่า 3 ชั่วโมง
นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนเครือข่ายเฝ้าระวังแผนพัฒนา จ.สตูล เปิดเผยว่า การเคลื่อนขบวนในวันนี้เพื่อนำข้อเสนอที่ได้จากเวทีสมัชชาสตูลครั้งที่ 4 เสนอต่อให้ ผวจ.สตูล คนใหม่พิจารณา และเพื่อแสดงจุดยืนให้ผวจ.สตูลทราบว่าชาวบ้านไม่ต้องการโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา เพราะสวนทางกับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ถูกรุกหนักจากการประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ โดยล่าสุดมีการตั้งกลุ่มสนับสนุนโครงการขึ้นมา ภายใต้การนำของอดีตผู้สมัครการเมืองท้องถิ่น และจากท่าทีของรัฐบาลรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกรมเจ้าท่าที่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดเพื่อการประชาสัมพันธ์ให้คนสตูลเห็นด้วยกับโครงการท่าเรือ นั่นทำให้ชาวบ้านต้องร่วมกันรณรงค์และเคลื่อนขบวน
นางเจ๊ะนะ วัฒนพันธุ์ ชาวบ้านในบ้านท่ามาลัย ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มสนับสนุนท่าเรือน้ำลึกได้เข้ามาทำงานกับเยาวชน มีการประชุมร่วมกับเยาวชนจนทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา จึงต้องเข้าร่วมขบวนรณรงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลอีกด้าน ยืนยันว่าไม่ได้มาชวนใครทะเลาะ เพียงแต่ต้องการแสดงออกถึงจุดยืนเท่านั้น
ด้านนายนาวี พรหมทรัพย์ ชาวบ้านกลุ่มสนับสนุนโครงการฯ กล่าวว่า แรงต้านโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราจากในพื้นที่ค่อนข้างน้อย เพราะคนส่วนใหญ่เชื่อว่าโครงการนี้จะสร้างประโยชน์แก่คนสตูลเป็นอย่างมาก และจะไม่มีนิคมอุตสาหกรรมเกิดขึ้นอย่างที่ฝ่ายคัดค้านกล่าวอ้างอย่างแน่นอน
นายนาวี กล่าวว่า ยอมรับว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จึงจะเสนอให้กรมเจ้าท่าตั้งกองทุน 200 ล้านบาทต่อปี เพื่อเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่าเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่ได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากผู้ใหญ่ใจดี ซึ่งเป็นนักธุรกิจโรงแรม 8 แห่งทั่วประเทศ
นายเจน รัตนพิเชฏฐชัย ผวจ.สตูล กล่าวว่า จ.สตูล มีธรรมชาติและวิถีชีวิตดั้งเดิมดีอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าทำอย่างไรให้ดีขึ้นไปอีก จึงอยากให้เน้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เป็นหลัก ส่วนอุตสาหกรรมคงยังไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามมองว่าโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารายังเป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเท่านั้น ซึ่งก็จะรวบรวมข้อมูลข้อกังวลของภาคประชาชนส่งให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
อนึ่ง ในปีงบประมาณ 2559 กระทรวงคมนาคมได้อนุมัติงบกลางจำนวน 50 ล้านบาท ให้สำนักแผนจราจรและการขนส่งศึกษาแนวโครงการแลนด์บริดจ์ภาคใต้ ซึ่งโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราเป็นส่วนหนึ่งในการศึกษา ในขณะที่กรมเจ้าท่าได้รับการจัดสรรงบ 120 ล้านบาท เพื่อทำการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพพร้อมทบทวนการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเดิมที่ได้รับอนุมัติเมื่อปี 2552
//////////////////
