เมื่อเวลา 00.45 น.ของวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา กองทัพพม่าที่ประจำอยู่ที่ดอยหมอกขาว ทางภาคกลางของรัฐฉาน ได้ใช้ปืนใหญ่ขนาด 120 มม.ยิงใส่ฐานที่มั่นใหญ่บ้านไฮ ลูกกระสุนตกใส่บ้านเรือนและโรงเรียนได้รับความเสียหาย ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คาดว่า สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่ทหารไทใหญ่ SSPP/SSA สามารถยึดคืนฐานที่มั่นแห่งหนึ่ง หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ทาง SSPP/SSA ได้สั่งให้ชาวบ้านอพยพออกจากฐานบัญชาการใหญ่บ้านไฮเพื่อความปลอดภัย ขณะที่นักเรียนราว 200 คน และชาวบ้านอีกนับร้อยต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตัวเอง
ชาวบ้านคนหนึ่งในพื้นที่เปิดเผยว่า ทหารพม่าต้องการสร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้นในวันออกพรรษา เนื่องจากในวันออกพรรษาที่ผ่านมา ที่วัดในบ้านไฮ มีประชาชนเป็นจำนวนมากไปทำบุญ “ทหารพม่าตั้งใจที่จะไม่ให้ชาวบ้านได้อยู่เย็นเป็นสุข” ชาวบ้านคนหนึ่งกล่าว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทหาร SSPP/SSA เชื่อว่า เป็นเพราะทางทหารพม่าไม่พอใจที่ทหารไทใหญ่สามารถยึดคืนฐานที่มั่น “กองมุ่งเมือง” คืนจากทหารพม่าได้ ซึ่งทหาร SSPP/SSA ได้ยอมสูญเสียฐานที่มั่นดังกล่าวให้ทหารพม่าเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่า หากยอมถอยให้ทหารพม่า สงครามจะไม่ยืดเยื้อ “แต่หลังทหารพม่าได้ปักหลักที่ฐานแห่งนี้ พวกเขากลับยิงปืนไปทั่ว และทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ เราจึงต้องยืดฐานที่มั่นแห่งนี้คืน” โฆษกของ SSPP/SSA กล่าว
อีกด้านหนึ่ง พลโทเจ้ายอดศึก ผู้นำ RCSS/SSA หรือกองทัพทหารไทใหญ่ใต้ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทใหญ่ Panglong ว่า ได้เขียนจดหมายไปยังประธานาธิบดีเต็งเส่งเพื่อให้ยุติโจมตี SSPP/SSA ชี้ต้องใช้แนวทางสันติและการเจรจาทางการเมืองแก้ปัญหาความขัดแย้ง สงครามยิ่งจะทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อนยากลำบาก ย้ำว่า ถึงเวลาที่ต้องสร้างวัฒนธรรมการเมืองใหม่มาใช้ร่วมกัน
นอกจากนี้เจ้ายอดศึกยังให้สัมภาษณ์ว่า หากกองทัพพม่ายังเดินหน้ารบกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ไม่กลุ่มใดก็กลุ่มหนึ่งต่อไป การลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับกลุ่มติดอาวุธ 8 กลุ่มที่ทำไว้ก็จะไม่มีความหมายอะไร อีกทั้งจะทำให้ความเชื่อใจระหว่างพม่าและชาติพันธุ์ยิ่งลดน้อยลงไป กลุ่มที่ยังไม่ได้เข้าร่วมลงนามหยุดยิงทั่วประเทศก็จะยิ่งไม่ยอมเข้ามาร่วม ซึ่งจะสั่นคลอนสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศได้
ที่มา เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ panglong/Tai Freedom
แปลโดย Transborder News
