ประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนมารวมตัวเพื่อฟังการปราศรัยหาเสียงของนางอองซาน ซูจี และสมาชิกพรรค NLD ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการหาปราศรัยหาเสียงครั้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่วัน โดยพรรค NLD ได้จัดหาเสียงขึ้นที่สนามฟุตบอลในเมือง”ติ่งเกายุ้นต์” เขตย่างกุ้ง เมื่อวันอาทิตย์ (1 พฤศจิกายน)ที่ผ่านมา โดยนางซูจีย้ำกับฝูงชนที่มาให้กำลังใจว่า พรรค NLD ต้องชนะการเลือกตั้งแบบขาดลอยเท่านั้นเพื่อเปลี่ยนประเทศ
นายทินอู รองประธานพรรค NLD ขึ้นกล่าวก่อนที่นางซูจีจะออกมาพบกับประชาชน โดยระบุเกี่ยวกับสัดส่วนทหาร 1 ใน 4 ที่อยู่สภาว่า “เต็งเส่งบอกว่า ประเทศได้เปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ผมแปลกใจว่า เขาจะพูดว่ายังไงเกี่ยวกับทหาร 25 % ที่มาจากการแต่งตั้งในสภา ผมอยากถามเขาเหลือเกิน ว่านี่เหรอเป็นสิ่งที่เขาได้เปลี่ยนมัน” นายทินอูกล่าว
หลังจากนั้น นางซูจีได้ขึ้นปราศรัยต่อ เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เปรียบเสมือนโอกาสครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลง เป็นโอกาสที่พบเห็นได้ยากในประวัติศาสตร์การเมืองพม่า เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะใช้โอกาสครั้งนี้ไปในทางที่ถูกต้อง ระบุอีกว่า เป็นโอกาสที่ทุกคนจะสร้างประเทศในแบบสหพันธรัฐประชาธิปไตยที่แท้จริง และ NLD ต้องการชนะเลือกตั้งแบบขาดลอยในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
นางซูจีได้พาดพิงถึงประธานาธิบดีเต็งเส่งว่า “คนที่บอกว่า ประเทศได้เปลี่ยนแปลงแล้ว คือคนที่ไม่อยากเห็นการปฏิรูปที่สำคัญ เราทุกคนตระหนักแล้วว่า พม่าต้องการความเปลี่ยนแปลง คนที่บอกว่าประเทศเปลี่ยนแปลงแล้วและไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเพิ่ม คือคนที่ไม่ต้องการให้ประเทศเปลี่ยนแปลงอย่างที่ทุกคนต้องการ เราต้องการเสียงส่วนใหญ่ในสภา ดังนั้นเราจึงขอให้คุณลงคะแนนเสียงให้กับพรรค NLD”
นางซูจียังกล่าวเพิ่มเติมว่า “เราต้องการให้ประเทศของเราร่ำรวย พัฒนาและมีสันติภาพ เราอยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นรากฐานของสันติภาพ การพัฒนาและทำให้ประเทศรุ่งเรือง” นางซูจียังกล่าวว่า พรรค NLD อยู่คู่กับคนพม่ามาเกือบ 30 ปี และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ดังนั้นจึงไม่กลัวแม้ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ตาม
นายตานเท วัย 62 ปี ที่เดินทางมาตั้งแต่เวลา 11.00 น. เพื่อมารับฟังการปราศรัยของนางซูจีครั้งนี้กล่าวว่า เขาจะลงคะแนนให้กับ NLD เหมือนที่เขาเคยทำในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อปี 2555 เช่นเดียวกับนายจ่อเท็ตข่าย ที่มาร่วมสนับสนุนนางซูจีเช่นกันกล่าวว่า เขาหวังให้พรรค NLD ชนะการเลือกตั้ง และต้องการให้นานาชาติสนับสนุนพม่าเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเปิดโอกาสให้นางซูจีมีที่ยืนในระดับนานาชาติ
“ผมเชื่อเธอ เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจเข้มแข็ง เธอมอบชีวิตให้กับประชาชน เธอมีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องให้อะไรกับประชาชนก็ได้ แต่เธอเสียสละยอมตกอยู่ภายใต้การถูกกักบริเวณ” นายจ่อเท็ตข่าย กล่าว
ที่มา Irrawaddy
แปลโดย Transborder News