
ประธานาธิบดีเต็งเส่งกล่าวให้สัมภาษณ์เมื่อวันศุกร์ (6 พ.ย.) ที่ผ่านมาว่า ทางรัฐบาลชุดปัจจุบันและกองทัพจะยอมรับผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (8 พ.ย.) ย้ำจะทำงานร่วมมือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ประเทศมีเสถียรภาพในช่วงการเปลี่ยนผ่าน นอกจากนี้จะพบกับผู้นำทางการเมืองทุกฝ่าย เพื่อหารือถึงแนวทางก้าวต่อไปของประเทศ
“ผมจะยอมรับรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง” เต็งเส่งกล่าว
ทั้งนี้คาดการณ์ว่า พรรค NLD ของนางอองซาน ซูจี น่าจะได้รับเสียงคะแนนส่วนใหญ่ แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พรรค NLD นั้นจะชนะการเลือกตั้งขาดลอยเพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ที่นั่งในสภา 25 % ยังคงสงวนไว้ให้กับทหารตามรัฐธรรมนูญปี 2551 ที่รัฐบาลเผด็จการทหารชุดก่อนเป็นผู้ร่างขึ้น จากนั้นมอบอำนาจให้กับรัฐบาลของเต็งเส่งบริหารบ้านเมืองต่อในปี 2554 เพื่อให้ได้เสียงส่วนใหญ่ในสภา พรรค NLD จะต้องชนะเลือกตั้ง 2 ใน 3 ที่นั่ง
นางซูจียังได้เรียกร้องไปยังนานาชาติให้เฝ้าจับตาช่วงการเลือกตั้งไปจนถึงช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่านรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งจะขึ้นมาบริหารประเทศช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยนางซูจีเผยว่า “การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่น สำคัญๆ พอกับการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม”
ทั้งนี้ ประเทศพม่าไม่มีการปกครองจากการเลือกตั้งมาตั้งแต่ปี 2503 ขณะที่ชาติตะวันตกเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรม อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้พบข้อร้องเรียนมากมายที่ส่อพิรุธว่าจะเกิดการโกงคะแนนเลือกตั้ง มีรายงานว่า ประชาชนประมาณ 4 ล้านคนอาจไม่สามารถเลือกตั้งในครั้งนี้ เนื่องจากรายชื่อประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมากยังตกหล่น เช่นเดียวกับประชาชนชาวพม่าในต่างประเทศหลายล้านคนพลาดโอกาสเลือกตั้ง เนื่องจากยื่นขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ทันตามเวลาที่กำหนด ส่วนชาติพันธุ์โรฮิงญาที่มีประชากรอยู่ประมาณ 1.1 ล้านคน ก็ถูกกีดกันไม่ให้มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้
ผลการเลือกตั้งเบื้องต้น คาดว่าจะทราบภายใน 48 ชั่วโมง ส่วนผลการเลือกตั้งทั้งหมดจะทราบภายใน 2 สัปดาห์
อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่าวันนี้(7 พ.ย.) ประชาชนจากเขตอิรวดีจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในย่างกุ้งได้เดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อไปเลือกตั้ง
ที่มา Irrawaddy/Eleven Media Group
แปลโดย Transborder News