Search

ทหารพม่าตัดสัญญาณโทรศัพท์ในเขตพื้นที่สู้รบทางภาคกลาง-ใต้ รัฐฉาน ห้ามคนภายนอกเข้าออก กระบอกเสียงกองทัพพม่าออกข่าวเท็จ อ้างทหารไทใหญ่ SSPP/SSA เปิดฉากโจมตีก่อน

11036256_898975106882674_5286794043879179570_n
ศูนย์พักพิงผู้พลัดถิ่นภายในจากการสู้รบในรัฐฉาน (ภาพ เฟซบุ๊ก Saiharkkhurharn Slca Kyaukme)

ทหารไทใหญ่ SSPP/SSA ซึ่งเป็นอีกกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ถูกกองทัพพม่าโจมตีอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ได้ออกแถลงการณ์ระบุ เหตุทหารพม่าใช้เฮลิคอปเตอร์และปืนใหญ่โจมตีในเมืองหนอง ทางใต้รัฐฉาน เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนนั้นไม่เกี่ยวข้องกับทหาร SSPP/SSA เนื่องจากทางกลุ่มไม่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่เมืองหนองแต่อย่างใด เหตุโจมตีเมืองหนองนั้นทำให้ตำรวจพม่าได้รับบาดเจ็บ 2 ราย วัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ รวมถึงบ้านเรือนได้รับความเสียหายอีก 3 หลัง

ในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ทหารพม่าได้ใช้เครื่องบินรบจำนวน 2 ลำ โจมตีฐานบัญชาการใหญ่บ้านไฮ ทำให้วัดแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางบ้านไฮได้รับความเสียหายอีกด้วย นอกจากนี้สื่อของทหารพม่าอย่างสำนักข่าว “เมียะวดี” ได้ออกข่าวเท็จว่า ทหารไทใหญ่ SSPP/SSA พร้อมกำลัง 120 นาย ดักซุ่มโจมตีทหารพม่าในเมืองหนองเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 10 พฤศจิกายน ซึ่งทาง SSPP/SSA ยืนยันไม่ได้เป็นผู้โจมีทหารพม่าแต่อย่างใด ไม่มีเหตุผลใดที่จะไปโจมตีทหารพม่าในเมืองหนอง ซึ่งอยู่ห่างจากฐานบัญชาการใหญ่บ้านไฮไปประมาณ 32 กิโลเมตร

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sai Zawm Mong
ความเสียหายจาหหารโจมตีของทหารพม่า (ภาพจาก เฟซบุ๊ก Sai Zawm Mong)

โฆษกของ SSPP/SSA เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางกลุ่มปกป้องตัวเองหากถูกโจมตีเท่านั้น ไม่ได้เป็นฝ่ายโจมตีทหารพม่าก่อนเพราะไม่ต้องการให้กระทบกับสันติภาพ SSPP/SSA ยังระบุในแถลงการณ์ว่า ทหารพม่ายังคงพยายามหาเรื่องทำสงครามกับ SSPP/SSA ตั้งแต่ก่อนหน้าเลือกตั้งและแม้หลังเลือกตั้งแล้วก็ตาม นี่แสดงให้เห็นว่า กองทัพพม่าไม่ได้ต้องการสันติภาพที่แท้จริงแต่อย่างใด

 

อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า สัญญาณโทรศัพท์ในเมืองลายค่า เมืองหนอง เมืองสู้ และเมืองเกซี ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้และตอนกลางของรัฐฉานนั้นถูกปิด และห้ามคนในพื้นที่เข้าออก อีกทั้งทหารพม่าบังคับและยึดเอาโทรศัพท์มือถือและกล้องถ่ายรูปของคนในพื้นที่ไว้

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ทหารพม่ายังได้ยิงปืนใหญ่ใส่โรงเรียนในหมู่บ้านส้อ เมืองเกซี ซึ่งถูกจัดให้เป็นศูนย์พักพิงให้กับผู้พลัดถิ่นภายในจากสงครามจำนวน 1,500 คน ตั้งแต่เมื่อเวลา 11.00 – 16.00 น.ทำให้ชาวบ้านต้องหลบซ่อนตัวอยู่ในบังเกอร์ มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุผู้พลัดถิ่นภายในจากสงคราม 1,500 คน และชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านส้ออีก 500 คน รวม 2,000 ต้องอพยพออกจากในพื้นที่ และไปอาศัยที่วัดในตัวเมืองสู้

ที่มา เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ panglong/ Sai Kwan Facebook
แปลโดย Transborder News

On Key

Related Posts

ผวจ.เชียงรายยังไม่รู้เรื่องน้ำกกขุ่นข้น-เตรียมสั่งการทสจ.ตรวจคุณภาพน้ำ คนขับเรือเผยน้ำขุ่นต่อเนื่องตั้งแต่อุทกภัยใหญ่ 6 เดือนก่อน ผู้เชี่ยวชาญชี้ดินโคลนจากเหมืองทองเสี่ยงสารปรอทปนเปื้อน ระบุการตรวจสอบต้องทำให้ถูกวิธี เก็บตัวอย่างตะกอนดิน-ปลานักล่า

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่Read More →

กรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำกก-ตรวจสารไซยาไนด์เหมืองทอง คาดรู้ผลภายใน 1 เดือน นักวิชาการเผยทหารว้าจับมือจีนแผ่อิทธิพลถึงชายแดนไทยใช้กลยุทธ์คุมต้นน้ำ-สร้างเหมืองกระทบไทย

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 นายชัยวัฒน์ ปันสิน ผู้อRead More →

ผู้ตรวจการแผ่นดินหวั่นโครงการสร้างเขื่อนใหญ่กั้นโขงส่งผลกระทบเขตแดนไทย แนะสร้างกลไกหารือร่วมกับภาคประชาชน กรมสนธิสัญญาอ้างยังตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ ภาคประชาชนจวก สนทช.งุบงิบข้อมูลจัดประชุมกรณีเขื่อนสานะคามแล้ว 4 ครั้ง

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมRead More →