วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2558) เวลา 12.00 น. ที่ห้องประชุมเดอะพลาซ่า ถ.รามคำแหง กทม. เครือข่ายองค์กรชุมชนรัฐฉาน ได้จัดงานแถลงข่าวและเผยแพร่แถลงการณ์ เรื่องสถานการณ์ผู้ประสบภัยจากการสู้รบ โดยมีชาวไทยใหญ่ที่อยู่ในกรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมาเข้าร่วมกว่า 250 คน
ทั้งนี้ได้มการอ่านแถลงการณ์โดยระบุว่า จากการที่กองทัพพม่าได้ปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นพื้นที่ของพรรคก้าวหน้ารัฐฉาน (Shan State Progress Party)/กองทัพรัฐฉาน (Shan State Army) (SSPP/SSA) ซึ่งเป็นกองทัพที่ได้ทำสัญญาหยุดยิงกับกองทัพพม่าไปตั้งแต่เมื่อปี 2532 และครั้งที่ 2 เมื่อปี 2555 แต่เมื่อต้นเดือนตุลาคมจนถึงปัจจุบัน ทางกองทัพพม่าได้เปิดฉากโจมตีกองทัพรัฐฉานเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยอ้างว่าไม่ลงนามความตกลงหยุดยิงทั่วประเทศ (Nationwide Ceasefire Agreement – NCA) ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนหลายอำเภอในพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือ ทำให้ประชาชนเป็นผู้ประสบภัยจากการปะทะ ทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนชราต่างอพยพหนีตาย ลี้ภัยไปอาศัยตามวัดในเมืองใกล้เคียง บางส่วนหลบซ่อนอยู่ในเขตป่า และบางส่วนถูกกักตัวจากกองทัพพม่า รวมแล้วไม่น้อยกว่า 6,000 คน ทำให้เกิดผลเสียต่อทรัพย์สิน บ้านเรือน พื้นที่ทำกิน นา ไร่ สวน และสัตว์เลี้ยงอีกทั้งช่วงนี้ฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร แต่จำเป็นต้องทิ้งพื้นที่หนีเอาตัวรอดเพื่อออกจากพื้นที่ไปยังพื้นที่ปลอดภัย”
แถลงการณ์ขององค์กรชุมชนรัฐฉาน ฉบับที่ 1 ซึ่งลงนามโดย 34 องค์กร อาทิ มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (SHRF) เครือข่ายปฏิบัติงการสตรีไทใหญ่ ( SWAN) ยังระบุว่ากองทัพพม่าได้เสริมกำลังคนและอาวุธอย่างต่อเนื่อง เพื่อเข้าโจมตีในเขตควบคุมดูแลของกองทัพรัฐฉานเหนือทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศ โดยไม่เลือกพื้นที่ที่ประชาชนอาศัยอยู่ โรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนไปหลายอำเภอ โดยเฉพาะพื้นที่บ้านไฮ ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในเขตและเขต อ.เมืองสู้ อ.เกซี อ.เมืองหนอง
แถลงการณ์ระบุว่าสรุป ความเสียหายนับตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม- 12 พฤศจิกายน ทหารพม่าโจมตีทหารไทใหญ่ SSPP/SSA อย่างน้อย 60 ครั้ง ผู้ประสบภัยสงครามเมืองหนอง เมืองเกซี เมืองสู้ ประมาณ 50 หมู่บ้าน มีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน 6,000 คน มีวัดเสียหาย 3 แห่ง ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 6 คน เสียชีวิต 1 คน ทางทหารพม่าปล้นทรัพย์สินของประชาชนประมาณ 3 ล้านจ๊าด รถยนต์ของประชาชนเสียหาย 2 คัน และยังมีความเสียหายที่ยังไม่สามารถระบุได้เนื่องจากยังไม่สามารถเข้าไปเก็บข้อมูลได้อีกเป็นจำนวนมาก
“จากเหตุการณ์นี้ ทางเครือข่ายชาวไต (ชาวไทยใหญ่) ขอประณามการโจมตีของกองทัพพม่าในครั้งนี้ และเรียกร้องให้ทางรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องดังนี้ 1ให้ยุติการโจมตีพรรครัฐฉานก้าวหน้า/กองทัพรัฐฉานเหนือ 2.ให้มีการชดเชยความเสียหายและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปะทะกันครั้งนี้อย่างเป็นธรรม 3.ให้มีการเจรจาด้วยสันติวิธีตามแนวทางการเมืองที่สากลนิยมปฏิบัติ 4.ให้มีการเลือกตั้งซ่อมในเขตพื้นที่ ที่มีประกาศยกเลิกการเลือกตั้งทั่วประเทศที่ผ่านมา 5.ให้ยุติการกักขัง หน่วงเหนี่ยว อันทำให้เกิดการขาดเสรีภาพในการดำเนินชีวิตของประชาชน 6.ให้ปฏิบัติต่อกองกำลังทุกกลุ่มอย่างเสอมภาค ทั้งกลุ่มที่ยังมิได้ลงนามหยุดยิง NCA 7.ให้แสดงความจริงใจต่อการสร้างสันติภาพอย่างแท้จริง ทั้งในระดับรัฐและภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้สัญญากับประชาคมโลก 8.ให้พิจารณาลงโทษผู้ทำร้ายประชาชน และทำลายศาสนสถานซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนในพื้นที่การสู้รบ”ในแถลงการณ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรมดังกล่าวมีประชาชนชาวรัฐฉาน หรือชาวไทเชื้อสายไทใหญ่ เข้าร่วมกันอย่างคึกคักโดยแต่งกายในชุดพื้นเมือง และมีการชูป้ายที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้กองทัพพม่ายุติการโจมตีทันที นางสาวแสงส่า ชาวรัฐฉานที่เข้าร่วมงานกล่าวว่า เหตุการณ์การสู้รบในรัฐฉานทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก เป็นห่วงเด็กและผู้หญิง ที่ต้องหนีเอาตัวรอด ถ้าเป็นได้ไม่อยากให้สู้รบ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ให้รบกันที่อื่น ที่ไม่กระทบชาวบ้าน