
คณะกรรมการเลือกตั้งพม่าประกาศผลคะแนนเลือกตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว โดยพรรค NLD สามารถกวาดที่นั่งทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภารวมทั้งหมด 387 ที่นั่ง จากทั้งหมด 478 ที่นั่ง คิดเป็นร้อยละ 78 % ขณะที่ในรัฐชาติพันธุ์ ผลการเลือกตั้งพลิกความคาดหมาย เมื่อพรรคการเมืองชาติพันธุ์ต่างก็พ่ายแพ้และสูญเสียฐานเสียงสำคัญให้กับพรรคการเมืองใหญ่ อย่างพรรค NLD และพรรค USDP อย่างราบคาบ
มีรายงานว่า 18 พรรคการเมืองชาติพันธุ์ได้ที่นั่งรวมกันในทั้ง 3 สภา (สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และสภาท้องถิ่น)อยู่ที่ 137 ที่นั่ง ในรัฐกะเหรี่ยงและรัฐคะเรนนีนั้น ไม่มีพรรคการเมืองชาติพันธุ์สามารถชนะเลือกตั้งคว้าที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรและในวุฒิสภาได้ โดยพรรค NLD ชนะเลือกตั้งเกือบทั้งหมด มีเพียงเขตเลือกตั้งที่ 2 เขตทันด่องจี ที่พรรคกะเหรี่ยงสามารถคว้ามาได้ 1 ที่นั่งในสภาท้องถิ่น ทั้งนี้ มีพรรคการเมืองกะเหรี่ยงที่ลงแข่งขันเลือกตั้งในรัฐกะเหรี่ยงทั้งหมด 5 พรรค
ขณะที่ในรัฐชิน ตัวแทนพรรคชาติพันธุ์สามารถคว้าที่นั่งในวุฒิสภามาได้เพียง 2 ใน 12 ที่นั่ง และในสภาผู้แทนราษฎร 2 ใน 9 ที่นั่ง เช่นเดียวกับในรัฐคะฉิ่น พรรคชาติพันธุ์ได้นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมาแค่ 2 ใน 18 ที่นั่ง
ทั้งนี้ แม้แต่ในรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่ ที่มีพรรคแห่งชาติอาระกัน(Arakan National Party) ซึ่งเป็นพรรคชาติพันธุ์ที่มีอิทธิพล และมีความสามัคคีอย่างเข้มแข็งยังต้องสูญเสียฐานเสียงสำคัญบางส่วนให้กับพรรค NLD เช่นในเขตเลือกตั้งเมืองตันดเว่ เมืองกวาและเมืองตองอัพ ซึ่งนางอองซาน ซูจีได้ปรากฎตัวหาเสียงในเมืองเหล่านี้ก่อนเลือกตั้ง
มีรายงานว่า ประชาชนชาติพันธุ์ต่างชื่นชอบนางซูจีอยู่แล้ว และเมื่อพรรค NLD ชูนโยบายเปลี่ยนประเทศก็ยิ่งทำให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น “เราสูญเสียที่นั่งทั้งหมด นั่นเป็นเพราะว่าทุกคนจะเปลี่ยนประเทศ การรณรงค์หาเสียงของพรรค NLD มีอิทธิพลมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ควรเข้ามาลงเลือกตั้งในรัฐชิน” นายอูโน ทัตคาน ประธานพรรคพัฒนาแห่งชาติชิน(Chin Development Party) กล่าว
ขณะที่เสียงสะท้อนจากเครือข่ายภาคสังคมกะเหรี่ยงแสดงความคิดเห็นว่า เหตุที่พรรคการเมืองกะเหรี่ยงแพ้เลือกตั้ง เนื่องจากความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายของพรรคกะเหรี่ยง การขาดแคลนงบประมาณในการลงพื้นที่หาเสียงให้ทั่วถึง การขาดแผนยุทธศาสตร์และไม่มีประสบการณ์ หรือเหตุผลที่ ส.ส.กะเหรี่ยงในพื้นที่ไม่มีผลงานในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งระยะเวลา 5 ปี จึงทำให้ประชาชนชาวกะเหรี่ยงตัดสินใจไม่เลือกพรรคชาติพันธุ์อีก
ด้านนางดอว์หง่วยมิ้นจากหมู่บ้านละคา เมืองผาอัน รัฐกะเหรี่ยง เปิดเผยว่า ตัดสินใจเลือกพรรค NLD เพราะเชื่อว่า NLD มีความแข็งแกร่งพอที่จะสู้กับพรรค USDP ได้ “เหตุผลที่ฉันเลือกพรรค NLD แทนที่จะเลือกพรรคชาติพันธุ์ของเรา เป็นเพราะฉันรู้ว่าพรรคชาติพันธุ์ไม่แข็งแกร่งพอที่จะชนะพรรค USDP ฉันเลือกพรรค NLD เพราะหวังว่า NLD จะอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งกว่า เพื่อทำอะไรสักอย่าง เพื่อทำให้เราได้ที่ดินของเราที่ถูกยึดกลับคืนมา”
ส่วนในรัฐฉาน โดยเฉพาะภาคตะวันออกของรัฐ เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพรรคการเมืองไทใหญ่สูญเสียฐานเสียงและที่นั่งในสภาทั้งหมดให้กับพรรค NLD และพรรค USDP โดยใน 9 เมืองทางภาคตะวันออกของรัฐฉาน พรรค USDP สามารถชนะใน 6 เมือง ที่เหลืออีก 3 เมือง พรรค NLD ชนะ โดยในพื้นที่นี้มีพรรคการเมืองไทใหญ่ 3 พรรค อย่างพรรคหัวเสือ SNLD พรรคเสือเผือก SNDP และพรรคการเมืองใหม่อย่างพรรค Eastern Shan State Development Democratic Party (ESSDDP) ลงแข่งขัน จึงอาจทำให้เสียงคะแนนแตก และท้ายสุดทำให้ผู้ชนะตกไปอยู่ที่ NLD หรือ USDP
อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครของพรรคหัวเสือและพรรคเสือเผือกต่างก็แสดงความคิดเห็นว่า การเลือกตั้งในพื้นที่ยังไม่บริสุทธิ์และยุติธรรม เช่น รายชื่อยังตกหล่น นอกจากนี้แสดงความเห็นว่า ประชาชนทางภาคตะวันออกของรัฐฉานยังขาดประสบการณ์ในเรื่องการเมือง นอกจากนี้ยังมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าของทหารที่ทำให้ผู้สมัครจากพรรค USDP ชนะเลือกตั้งในช่วงโค้งสุดท้าย
มีรายงานว่า เหตุที่พรรค USDP ชนะเลือกตั้งในพื้นที่ชาติพันธุ์เป็นเพราะได้รับการสนับสนุนจากข้าราชการทหารและครอบครัว รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจ นอกจากนี้การชูนโยบายปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์บางส่วนเลือกพรรค USDP
ที่มา SHAN/Myanmar Times/Karen News
แปลโดย Transborder News