นักศึกษาและนักเคลื่อนไหวที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำทาระวดี เขตพะโค ยุติอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยคัวนักโทษการเมืองในพม่า หลังถูกร้องขอจากองค์กรเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในพม่า พระสงฆ์ที่เคยร่วมประท้วงเมื่อปี 2550 รวมถึงพรรค NLD เนื่องจากเกรงว่า หากนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวยังอดอาหารประท้วงต่อไป จะส่งผลต่อสุขภาพของผู้ประท้วง
ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่า นักเคลื่อนไหวและนักศึกษาที่ร่วมประท้วงอดอาหารเป็นเวลานานเกือบ 20 วัน เริ่มมีปัญหาสุขภาพแล้ว โดยพบว่าทั้งหมดขาดสารอาหารและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวและนักศึกษาจำนวน 12 คนจากเรือนจำทาระวดี และอีก 2 คน จากเรือนจำมิงยัน ได้ร่วมกันอดอาหารประท้วง โดยหลายคนเริ่มอดอาหารตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่นายโก่อ่องหม่ายซาน ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวจากองค์กร All Burma Federation of Student Unions หรือ บะกะทะ ได้อดอาหารตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา
“รัฐบาลไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการประท้วงอดอาหารครั้งนี้และไม่ได้ยอมรับด้วยซ้ำ” นายโก่อ่องหม่ายซาน ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาจะหยุดประท้วงไว้ก่อนในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล แต่จะกลับมาอดอาหารประท้วงอีก หากรัฐบาลไม่สามารถทำตามข้อเรียกร้องที่ให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมดได้
นักเคลื่อนไหวรายนี้เปิดเผยข้อมูลว่า เขาและผู้ที่อดอาหารประท้วงคนอื่นๆ กำลังทุกข์ทรมานจากการขาดสารอาหาร อย่างไรก็ตาม สุขภาพเขาเริ่มดีขึ้นหลังได้รับอาหารและการรักษาพยาบาล ขณะที่ผู้นำพรรค NLD นางอองซาน ซูจีกล่าวไว้ว่า หากพรรคฯ ขึ้นเป็นรัฐบาล สิ่งที่จะทำอันดับแรกคือการปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองทั้งหมด จนถึงขณะนี้ มีนักเคลื่อนไหว นักศึกษาถูกคุมขังทั้งสิ้น 66 คน โดยทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำทาระวดี เรือนจำมิงยันและที่เรือนจำมัณฑะเลย์เป็นเวลานานกว่า 8 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ มีนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวมากกว่า 100 คน ถูกจับเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่เมืองเล็ตปะด่อง เขตพะโค หลังจากที่ออกมาประท้วงต่อต้านกฎหมายด้านการศึกษาที่ถูกมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ความรุนแรงเข้าจับกุมและสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุมอย่างสันติ นักศึกษาบางส่วนได้รับการประกันตัวออกมา และขณะนี้การไต่สวนคดียังดำเนินต่อไป โดยนักศึกษาเหล่านี้กำลังเผชิญกับการถูกตั้งข้อหาชุมนุมผิดกฎหมาย ก่อจลาจล และทำให้ข้าราชการได้รับอันตราย ซึ่งอาจต้องติดคุกเป็นเวลาหลายปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิด
ที่มา Myanmar times
แปลโดย Transborder News
