
โฆษกของพรรค NLD ออกมาเปิดเผยว่า นางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรค NLD จะเป็นผู้นำในการสานต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในพม่า หลังจากที่พรรค NLD เข้ามาบริหารประเทศในปีหน้า นายวินเต่ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ชาติพันธุ์มีความมุ่งมันที่จะทำงานร่วมกับพรรค NLD เพื่อสร้างสันติภาพ
ทั้งนี้ ในระหว่างที่เดินสายหาเสียงตามรัฐชาติพันธุ์ นางซูจีได้ชูนโยบายให้ความสำคัญสนับสนุนสันติภาพและการปรองดอง “หากเราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เราจะให้สิทธิแก่ชาติพันธุ์และปกป้องพวกเขา” นางซูจีกล่าวระหว่างหาเสียง ขณะที่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับกลุ่มติดอาวุธ 8 กลุ่มจากทั้งหมด 20 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ยังไม่ยอมลงนามหยุดยิงได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะร่วมทำงานกับ NLD มากกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน ด้านกลุ่มที่ลงนามหยุดยิงแล้ว 8 กลุ่ม ก็มีท่าทีต้องการหารือกับพรรค NLD
ส่วนนายทาโจ้ดจา รองประธานกองทัพปะหล่อง TNLA เผยว่า ตัวเขาจะมีความสุขมากหากนางซูจีจะเป็นผู้นำสร้างกระบวนการสันติภาพ แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะคาดหวัง ขณะที่ทางรัฐบาลพม่าออกมาเปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 48 คน เพื่อเข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับการหารือทางการเมือง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นในปีหน้า โดยผู้แทน 16 คน จะมาจากฝ่ายรัฐบาล กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และพรรคการเมืองทั้งหมด
หลังชนะเลือกตั้ง นางซูจีได้ทำจดหมายเชิญประธานาธิบดีเต็งเส่ง นายฉ่วยมาน โฆษกสภาผู้แทนราษฎร พลเอกมิ้นอ่องหลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดร่วมหารือประเด็นการปรองดองแห่งชาติ ล่าสุด นางซูจีได้พบปะหารือกับนายฉ่วยมานแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี(19 พ.ย.) ที่เนปีดอว์ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ส่วนทางพลเอกมิ้นอ่องหล่ายและประธานาธิบดีเต็งเส่งจะหารือกับซูจี หลังทางคณะกรรมการเลือกตั้งได้ดำเนินการกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมดแล้วเสร็จ
ด้านกองทัพว้า (UWSA) และกองทัพเมืองลา (NDAA) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กองทัพพม่ายุติโจมตีทหารไทใหญ่ SSPP/SSA ทางภาคกลางและทางใต้ของรัฐฉานโดยทันที ระบุในแถลงการณ์ว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำใช้ที่กำลังทหารเข้าโจมตีทหาร SSPP/SSA และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งกองทัพพม่า เป็นกำลังสำคัญที่จะต้องมีหน้าที่ช่วยให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น และรักษาความสงบของบ้านเมือง เพื่อไม่ให้ปัญหาความขัดแย้งทางชาติพันธุ์เกิดขึ้น นอกจากนี้ในแถลงการณ์ยังระบุว่า ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลชุดใหม่ รัฐบาลชุดปัจจุบันและกองทัพจำเป็นจะต้องดำเนินตามแนวทางระเบียบของการเลือกตั้ง เหมือนเช่นที่ประเทศอื่นๆ ปฏิบัติ ไม่ควรเอาการเมืองและการทหารมาสร้างความแตกแยกในประเทศเพิ่มมากขึ้น
ที่มา Irrawaddy/Taifreedom
แปลโดย Transborder News