Search

ดอว์ซูจีจะเป็นผู้นำสานต่อกระบวนการสันติภาพในพม่า ชาติพันธุ์หลายกลุ่มตบเท้ายินดีร่วมทำงานกับรัฐบาลชุดใหม่จากพรรค NLD

ภาพจากเฟซบุ๊ค Aung San Suu Kyi
ภาพจากเฟซบุ๊ค Aung San Suu Kyi

โฆษกของพรรค NLD ออกมาเปิดเผยว่า นางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรค NLD จะเป็นผู้นำในการสานต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในพม่า หลังจากที่พรรค NLD เข้ามาบริหารประเทศในปีหน้า นายวินเต่ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ชาติพันธุ์มีความมุ่งมันที่จะทำงานร่วมกับพรรค NLD เพื่อสร้างสันติภาพ

ทั้งนี้ ในระหว่างที่เดินสายหาเสียงตามรัฐชาติพันธุ์ นางซูจีได้ชูนโยบายให้ความสำคัญสนับสนุนสันติภาพและการปรองดอง “หากเราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เราจะให้สิทธิแก่ชาติพันธุ์และปกป้องพวกเขา” นางซูจีกล่าวระหว่างหาเสียง ขณะที่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเต็งเส่งได้ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศกับกลุ่มติดอาวุธ 8 กลุ่มจากทั้งหมด 20 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ยังไม่ยอมลงนามหยุดยิงได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าจะร่วมทำงานกับ NLD มากกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน ด้านกลุ่มที่ลงนามหยุดยิงแล้ว 8 กลุ่ม ก็มีท่าทีต้องการหารือกับพรรค NLD

ส่วนนายทาโจ้ดจา รองประธานกองทัพปะหล่อง TNLA เผยว่า ตัวเขาจะมีความสุขมากหากนางซูจีจะเป็นผู้นำสร้างกระบวนการสันติภาพ แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะคาดหวัง ขณะที่ทางรัฐบาลพม่าออกมาเปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 48 คน เพื่อเข้ามาดำเนินการเกี่ยวกับการหารือทางการเมือง ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขึ้นในปีหน้า โดยผู้แทน 16 คน จะมาจากฝ่ายรัฐบาล กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์และพรรคการเมืองทั้งหมด

หลังชนะเลือกตั้ง นางซูจีได้ทำจดหมายเชิญประธานาธิบดีเต็งเส่ง นายฉ่วยมาน โฆษกสภาผู้แทนราษฎร พลเอกมิ้นอ่องหลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดร่วมหารือประเด็นการปรองดองแห่งชาติ ล่าสุด นางซูจีได้พบปะหารือกับนายฉ่วยมานแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี(19 พ.ย.) ที่เนปีดอว์ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ส่วนทางพลเอกมิ้นอ่องหล่ายและประธานาธิบดีเต็งเส่งจะหารือกับซูจี หลังทางคณะกรรมการเลือกตั้งได้ดำเนินการกระบวนการเลือกตั้งทั้งหมดแล้วเสร็จ

ด้านกองทัพว้า (UWSA) และกองทัพเมืองลา (NDAA) ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กองทัพพม่ายุติโจมตีทหารไทใหญ่ SSPP/SSA ทางภาคกลางและทางใต้ของรัฐฉานโดยทันที ระบุในแถลงการณ์ว่า ไม่เห็นด้วยกับการกระทำใช้ที่กำลังทหารเข้าโจมตีทหาร SSPP/SSA และทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งกองทัพพม่า เป็นกำลังสำคัญที่จะต้องมีหน้าที่ช่วยให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น และรักษาความสงบของบ้านเมือง เพื่อไม่ให้ปัญหาความขัดแย้งทางชาติพันธุ์เกิดขึ้น นอกจากนี้ในแถลงการณ์ยังระบุว่า ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐบาลชุดใหม่ รัฐบาลชุดปัจจุบันและกองทัพจำเป็นจะต้องดำเนินตามแนวทางระเบียบของการเลือกตั้ง เหมือนเช่นที่ประเทศอื่นๆ ปฏิบัติ ไม่ควรเอาการเมืองและการทหารมาสร้างความแตกแยกในประเทศเพิ่มมากขึ้น

ที่มา Irrawaddy/Taifreedom
แปลโดย Transborder News