
หลังทางกองทัพไทใหญ่ SSPP/SSA เหนือ ได้พบปะหารือกับนายอูขิ่นหม่องโซ จากคณะกรรมการทำงานสร้างสันติภาพ(UPWC) และรัฐมนตรีด้านกระทรวงไฟฟ้าของพม่าที่ย่างกุ้งเมื่อเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ดูเหมือนจะคลายสถานการณ์ความตึงเครียดลง เพราะทั้งสองฝ่ายได้ข้อตกลงที่จะหยุดการสู้รบไว้ชั่วคราว อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ทางรัฐบาลเนปีดอว์กลับเปลี่ยนท่าทีและมีคำสั่งให้ทหารไทใหญ่ SSPP/SSA ถอนกำลังออกจากเมืองหนอง เมืองสู้ทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข
ระหว่างการพบกันของทั้งสองฝ่าย นายอูขิ่นหม่องโซบอกกับทาง SSPP/SSA ว่า จะต้องจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหารือกันอีกรอบในวันนี้ (23 พฤศจิกายน) แต่ในเวลาต่อมา ทางฝ่ายพม่ากลับเปลี่ยนท่าที โดยเจ้าหน่อเล็ก ตัวแทนของ SSPP/SSA เปิดเผยว่า การพบกันที่ผ่านมา การหารือเป็นที่น่าพอใจ โดยทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่จะยุติการสู้รบ ซึ่งทำให้ผู้พลัดถิ่นภายในที่ทราบข่าวต่างพากันเตรียมตัวที่จะกลับบ้านของตัวเองในเร็วๆ นี้ แต่ต่อมาทางฝ่ายพม่ากลับโทรศัพท์มาหา SSPP/SSA และสั่งให้ถอนทหารออกจากพื้นที่ทางภาคกลางที่ประจำอยู่ไว้ทั้งหมด จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่า กำหนดการที่จะหารือกันอีกรอบในสัปดาห์นี้จะเกิดขึ้นหรือไม่

ด้านเจ้าหน้าที่ของ SSPP/SSA คนหนึ่งเปิดเผยว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ขณะนี้ เป็นคำสั่งของกองทัพพม่าในเนปีดอว์ และมีรายงานว่า มีรถขนทหารพม่ามากกว่า 30 คัน จากเมืองตองจีมุ่งหน้ามายังเขตควบคุมของ SSPP/SSA นอกจากนี้มีการนำรถถังจากมัณฑะเลย์ขึ้นมาทางเมืองล่าเสี้ยว โดยจะนำรถถังเหล่านี้ไปเมืองต้างยาน ทางเหนือรัฐฉาน
อย่างไรก็ตาม หลังจากการหารือระหว่าง SSPP/SSA และฝ่ายพม่าส่อเค้าล้มเหลวจึงทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้พลัดถิ่นภายในจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้พลัดถิ่นภายในเนื่องจากสงครามในรัฐฉานจำนวนกว่า 10,000 คน โดยทั้งหมดได้อาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงกระจัดกระจายอยู่ในหลายเมืองของรัฐฉาน อีกด้านหนึ่งชาวไทใหญ่ทั้งในและนอกประเทศได้ออกมาระดมทุนหาเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสงคราม และตื่นตัวออกมาแสดงท่าทีไม่เอาสงครามและเรียกร้องให้หยุดสงครามที่เกิดขึ้นในพม่าทั้งหมด
ที่มา เว็บไซต์ข่าวไทใหญ่ Panglong/Facebook
แปลโดย Transborder News