
สืบเนื่องจากรัฐบาลพม่าไม่ยอมรับชาวโรฮิงญาเป็นพลเมืองของปะรเทศ ล่าสุด มีรายงานว่า ชาย 5 คน ถูกจับกุมและถูกศาลปรับเงินคนละ 28,600 บาท หลังพบว่ามีส่วนร่วมในการพิมพ์ปฏิทินที่มีข้อความระบุว่า ชาวมุสลิมโรฮิงญาเป็นกลุ่มศาสนาชาติพันธุ์เล็กๆที่อาศัยอยู่ในประเทศพม่า โดยทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าเข้าจับกุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์
ทั้งนี้ ชายทั้ง 5 คนที่ถูกจับกุมพบว่าเป็นชาวพุทธ 2 คน และชาวมุสลิมอีก 2 คน ส่วนชายอีกคนยังไม่ทราบข้อมูล มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดของกลางที่เป็นปฏิทินได้ที่บ้านหลังหนึ่งในย่างกุ้ง หลังการจับกุม กลุ่ม “มะบะทะ” ซึ่งเป็นกลุ่มพระสงฆ์หัวรุนแรงได้เรียกร้องให้เอาผิดกับผู้ผลิตปฏิทินดังกล่าว และทางกลุ่มยังได้เผยแพร่เรื่องดังกล่าวผ่าน Facebook ด้วย
นอกจากนี้ บนปฏิทินดังกล่าว ยังมีข้อความระบุว่า นายอูนุ อดีตนายกรัฐมนตรีของพม่าก็เคยใช้คำเรียก “โรฮิงญา” ต่อหน้าสาธารณชนและเคยมีสถานีวิทยุโรฮิงญาในยุคปี ค.ศ. 1950 การสืบสวนชายทั้ง 5 คน เกิดขึ้นหลังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องปฏิทินดังกล่าวจาก Facebook ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าอ้างว่า การตีพิมพ์ปฏิทินลักษณะดังกล่าวเป็นการทำผิดกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายของพม่าห้ามตีพิมพ์เผยแพร่ข้อความที่จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้ รัฐบาลพม่าไม่ยอมรับชาติพันธุ์มุสลิมกลุ่มเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ทางเหนือในรัฐอาระกัน ซึ่งมีประชากรราว 1 ล้านคน ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นชาวโรฮิงญา โดยทางรัฐบาลพม่าเรียกคนเหล่านี้ว่าเป็น “ชาวเบงกาลี” ซึ่งเป็นแรงงานจากประเทศบังกลาเทศที่เข้าพม่าอย่างผิดกฎหมายแทน ที่ผ่านมา รัฐบาลพม่าเลือกปฏิบัติกับคนกลุ่มนี้ เช่น ไม่ให้สัญชาติพม่า ไม่อนุญาตให้ออกจากพื้นที่อยู่อาศัยไปในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ไม่อนุญาตให้เรียนในระดับอุดมศึกษา หรือแม้แต่ออกกฎหมายห้ามแต่งงานหากไม่ได้รับอนุญาตจากทางการเป็นต้น
การไม่สามารถทนถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากตัดสินใจเดินทางออกจากรัฐอาระกัน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศมุสลิม ชาวโรฮิงญาจำนวนมากตกเป็นเหยื่อและเข้าสู่ในวงจรกระบวนการค้ามนุษย์ และกลายเป็นผู้อพยพทางเรือที่ไม่มีประเทศไหนต้องการในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ชาติตะวันตกและกลุ่มเพื่อสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้รัฐบาลพม่ายุติการกดขี่ข่มเหงชาวโรฮิงญาในประเทศ
ที่มา Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย Transborder News