พรรครัฐฉานก้าวหน้า/กองทัพรัฐฉานเหนือ (SSPP/SSA) ปฏิเสธที่จะทำตามคำสั่งของกองทัพพม่าที่ระบุให้ถอนกำลังออกจากฐานที่มั่นทางภาคตะวันออกบนทางหลวงในเมืองหนอง เมืองสู้และที่เมืองเกซี ทางภาคกลางของรัฐฉาน ภายใน 5 วัน ไม่เช่นนั้นจะเผชิญกับเหตุสู้รบต่อไป ซึ่งขณะนี้เลยกำหนดวันขีดเส้นตายของกองทัพพม่าแล้วเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทหารไทใหญ่ระบุ เตรียมพร้อมต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองหากถูกโจมตี ขณะที่มีรายงานว่า ถนนที่มุ่งหน้าสู่เมืองฮายป๋า เมืองต้างยาน และเมืองหนอง มีทหารพม่าและทหารไทใหญ่ SSPP/SSA รวมถึงทหารไม่ทราบฝ่ายประจำตามจุดต่างๆ ซึ่งคาดว่าอาจจะเกิดเหตุสู้รบกันอีกในเร็วๆ นี้
ทางเจ้าหน้าที่ของ SSPP/SSA รายหนึ่งเปิดเผยว่า ทางกลุ่มได้ประชุมและตัดสินใจว่าจะไม่ถอนทหารออกจากฐานที่มั่นของตน “การถอนทหารของเราออกไป ไม่ได้หมายความว่า พวกเขา(กองทัพพม่า)จะหยุดโจมตีเรา พวกเขาจะขอให้เราถอนออกไปเรื่อยๆ” ทั้งนี้ ทาง SSPP/SSA ระบุจะร่วมหารือกับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งในอีก 4 เดือนข้างหน้า ย้ำต้องการใช้แนวทางเจรจาแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
เช่นเดียวกันมีรายงานว่า ทางทหารไทใหญ่ SSPP/SSA ได้เตรียมพร้อมประจำเพื่อปกป้องกองบัญชาการใหญ่บ้านไฮ หากถูกโจมตีอีกในเร็วๆนี้ “เราเกิดและจะตายที่นี่ เราประจำอยู่ที่นี่มา 20 ปี เราไม่ได้ขอเรียกร้องสิทธิ์ แต่เรามีสิทธิ์อยู่แล้ว แต่พวกเขา(ทหารพม่า) แย่งสิทธิ์นั้นไป เราต้องปกป้องสิทธิ์ของเรา” พันตรีจายละ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การให้เวลา 5 วันให้ถอนทหารนั้นถือว่าน้อยเกินไป
ทางด้านมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (SHRF) ออกรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงจำนวน 8 รายทั้งทางภาคตะวันออกและทางทางภาคใต้ของรัฐฉาน นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่พบเหตุละเมิดทางเพศส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกยนที่ผ่านมา ทหารพม่าจำนวน 10 นาย ได้รุมข่มขืนหญิงวัย 32 ปี
ทางด้าน SSPP/SSA รายงานว่า การสู้รบที่ผ่านมา ฝ่ายกองทัพพม่าสูญเสียทหารเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีทหารยศระดับผู้บังคับบัญชาด้วย นายจายข่วย ผู้เข้าร่วมรบกับ SSPP/SSA เล่าย้อนถึงเหตุการณ์สู้รบบริเวณฐานที่มั่นของ SSPP/SSA บนดอยแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุกองทัพพม่าได้โจมตีทั้งทางอากาศและเสริมกำลังพลภาคพื้นดินอีก 200 นายโจมตี SSPP/SSA
“พวกเขาเหยียบกับระเบิดของเราบาดเจ็บจำนวนมาก แต่ก็ยังมีทหารพม่าอีกเป็นจำนวนมากพยายามขึ้นมาโจมตีเรา เราเผชิญหน้ากันในระยะใกล้มาก แต่เราก็ไม่อยากฆ่าพวกเขา เราเหมือนพี่น้องกัน เราไม่ควรฆ่าแกงกัน เราไม่อยากฆ่าพวกเขา เพราะพวกเขามีลูกเมีย ครอบครัวของพวกเขา (ทหารพม่า) คงเสียใจมาก หากรู้ว่าคนที่พวกเขารักถูกฆ่าตาย พวกเราควรจะแบ่งปันกันใช้แผ่นดินนี้ กองทัพพม่าไม่ควรกำหนดว่าใครควรอยู่ที่ไหน เพราะที่นี่คือแผ่นดินของเรา” นายจายข่วยกล่าว
อีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ถูกทหารพม่าสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือผู้หนีภัยสงครามในเมืองฮายป๋า และตัดสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่นี้ จนถึงขณะนี้มีศูนย์พักพิงชั่วคราวถูกตั้งขึ้นในหมู่บ้านบ้านว่า เมืองตองจี เมืองสู้ เมืองหนอง เมืองนาย เมืองสู้ เมืองฮายป๋า เมืองไหยและเมืองล่าเสี้ยว มีผู้หนีภัยสงครามมากกว่า 10,000 คน ทางด้านเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายในแสดงความกังวลในฤดูหนาวนี้ จะเผชิญกับการขาดแคลนอาหาร เครื่องนุ่งห่มกันหนาว โดยในเดือน ธันวาคมเป็นเดือนที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบปี
ที่มา Irrawaddy/Eleven Media Group
แปลและเรียบเรียงโดย Transborder News
