หลังมีข่าวลือแพร่สะพัดว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรค NLD ได้พบหารือกับพลเอกตานฉ่วย อดีตผู้นำเผด็จการทหารพม่า ที่กรุงเนปีดอว์ เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ (4 ธ.ค.)ที่ผ่านมา โดยทางสำนักข่าว BBC ภาษาพม่าและแหล่งข่าวอื่นๆได้ออกมารายงานเรื่องนี้ ล่าสุดมีรายงานจากการเปิดเผยของหลานชายพลเอกอาวุโสตานฉ่วยว่า อดีตผู้นำเผด็จการทหารพม่า พลเอกอาวุโสตานฉ่วยนั้นได้พบกับผู้นำพรรคฝ่ายค้านจริง โดยตานฉ่วยยังมีท่าทีสนับสนุนนางซูจี ขึ้นเป็นผู้นำของพม่าในอนาคตอีกด้วย
นายเนฉ่วย ทวยอ่อง หลานชายของพลเอกตานฉ่วยได้ออกมาโพสต์ผ่าน Facebook ส่วนตัวเมื่อวันเสาร์(5 ธ.ค.) ที่ผ่านมาว่า หลังได้หารือกับนางซูจีเมื่อวันศุกร์ ทางพลเอกอาวุโสตานฉ่วยมีท่าทีที่จะสนับสนุนนางซูจีอย่างเต็มที่ในการขึ้นเป็นว่าที่ผู้นำของประเทศในอนาคต โดยนายเนฉ่วย ทวยอ่องได้ระบุถึงคำพูดของตานฉ่วยว่า “ผมจะสนับสนุนเธอ (นางซูจี) อย่างเต็มที่”
อย่างไรก็ตามยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า หลังทางอดีตผู้นำพม่าเปลี่ยนท่าทีหันมาสนับสนุนนางซูจี จะมีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญปี 2008 (2551) ที่รัฐบาลในยุคของตานฉ่วยเป็นผู้เขียนขึ้นหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังกีดกันไม่ให้นางซูจีขึ้นเป็นประธานาธิบดี เพราะนางซูจีมีบุตรและสามีถือสัญชาติอื่น
ทางด้านนายวินเต่ง จากพรรค NLD เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การที่ซูจีพบกับตานฉ่วยนั้น เป็นเพราะนางซูจีเชื่อว่า ตานฉ่วยยังคงมีอิทธิพลต่อรัฐบาลพม่าและกองทัพพม่า ทั้งนี้ ตานฉ่วยเองเป็นผู้สั่งกักบริเวณนางซูจีให้อยู่แต่ในบ้านพักเป็นเวลาเกือบ 19 ปี โดยสายตาของชาติตะวันตก พลเอกอาวุโสตานฉ่วยถูกมองเป็นผู้นำเผด็จการที่กำจัดฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอย่างราบคาบ และหาผลประโยชน์จนร่ำรวย ในขณะที่ประชาชนยากจนลง โดยแม้จะประกาศวางมือทางการเมือง แต่ยังเชื่อกันว่า ตานฉ่วยนั้นยังคงมีอิทธิพลในการเมืองพม่า ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2554 ตานฉ่วยไม่ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณชนบ่อยนัก
ขณะที่หลังชนะการเลิือกตั้ง นางซูจีได้พบกับนายฉ่วยมาน ประธานสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อเร็วๆนี้ได้พบหารือกับประธานาธิบดีเต็งเส่งและพลเอกมิ้นอ่องหลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพม่า โดยนางซูจีเป็นผู้ทำจดหมายเชิญผู้นำทั้ง 3 ฝ่าย โดยการประชุมเพื่อหาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติและให่้การถ่ายโอนอำนาจไปสู่รัฐบาลใหม่ที่มาจากพรรคฝ่ายค้านเป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งทางเต็งเส่งและมิ้นอ่องหล่ายต่างก็รับปากจะร่วมมือกับซูจีทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลของนางซูจีจะขึ้นมาบริหารประเทศต่อจากรัฐบาลเต็งเส่งในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้
ที่มา รอยเตอร์/Irrawaddy
แปลและเรียบเรียงโดย Transborder News
