เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2558 ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น.ชาวบ้านอำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิในนามกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ที่คัดค้านการโรงไฟฟ้าในโครงการการสร้างเหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำนวนกว่า 30 คนเดินทางไปยื่นหนังสือกับตัวแทนเอกอัคราชทูตในประเทศอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน สิงคโปร์ และมาเ ลเซีย ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นสำคัญของบริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินการทำเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบต่อการกระทำที่กลุ่มบริษัทต่างๆเตรียมสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่เหมือง โดยปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ โดยระหว่างการดำเนินกิจกรรมดังกล่าวนั้นมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจติดตามดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดเวลา ซึ่งสถานทูตแต่ละแห่งก็ส่งเจ้าหน้าที่มารับหนังสือไว้ และรับปากว่าจะชี้แจงข้อมูลเป็นหนังสือตอบรับภายหลัง
ชาวบ้านรายหนึ่งที่ร่วมเดินทางมายื่นหนังสือ กล่าวว่า ในผลักดันโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้น เพราะมีข้อสงสัย เนื่องจากเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมใดๆ ในระดับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่ประเทศไทยได้ผูกพันกับกลุ่มประเทศอาเซียน เป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือที่เกี่ยวกับองค์การระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย ซึ่งหากมีนโยบายให้โรงไฟฟ้าถ่านหินเข้ามาเป็นอีกหนึ่งโครงการ หรือเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบของโครงการเหมืองแร่โปแตชอาเซียนก็ตาม ประเทศไทยจำต้องพิจารณายกเรื่องนี้ขึ้นหารือกับประเทศภาคี ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประชาชนไทยถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับอนุมัติอย่างน้อยในเชิงหลักการ
“ในการเดินทางของพวกเราวันนี้ เราโดนเจ้าหน้าที่ตามประกบตั้งแต่ออกจากบ้าน คือ เราไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลยนะ บรรยากาศดูวังเวงเกินไป เราแค่อยากแต่ละอย่างไม่เป็นธรรม พวกเราถูกลิดรอนสิทธิเราก็สื่อสารให้ประเทศต่างๆ รับรู้ว่ากระบวนการเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่สมบูรณ์ ดังนั้นควรที่จะทำให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามในการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งใหม่ 17 ธันวาคม 2558นี้ ชาวบ้านพร้อมจะร่วมเสมอแต่ทางเวทีต้องรับฟังชาวบ้านบ้าง และรับรู้ว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมมันเรื่องใหญ่ พวกเราไม่อยากให้โรงไฟฟ้าเกิดขึ้น” ชาวบ้านกล่าว
นางสุวรรณี ศรีสูงเนิน ชาวบ้านตำบลหัวทะเล กล่าวว่า ข้อกังวลที่ชาวบ้านห่วงมากที่สุด คือ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจากปัญหาดินเค็ม ซึ่งช่วงการทำเหมืองแร่โปแตซช่วงแรกนั้น ดินที่ชาวบ้านใช้เพาะปลูกมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก จากที่เป็นแค่ดินกร่อยก็เกิดเป็นหน้าดินเค็ม ถ้ามีโรงไฟฟ้า เกรงว่าทางโรงไฟฟ้าจะมีการแย่งน้ำใช้แล้วปล่อยของเสียสู่พื้นที่ของชาวบ้าน รัฐบาลและกลุ่มบริษัทจึงควรลงมาเปิดเวทีเจรจาอย่างเป็นธรรม
/////////////////////////////////////
