กองทัพพม่าได้ออกมาประกาศเมื่อเร็วๆนี้ว่า เตรียมกำจัดกองทัพอาระกัน (Arakan Army) ให้หมดสิ้น เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรพย์สินของประชาชน โดยกองทัพพม่ากล่าวหาว่า กองทัพอาระกันนั้นมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธผิดกฎหมายในบังกลาเทศ ขณะที่กองทัพพม่าและทหารอะระกันได้เริ่มทำสงครามครั้งใหม่เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่ชนบทของรัฐอาระกัน โดยจนถึงขณะนี้ ทำให้มีชาวบ้านราว 200 คน อพยพหนีสงครามมาอาศัยอยู่ที่เมืองมรัคอู
มีรายงานว่า ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของกองทัพพม่าถูกกลุ่มกองทัพอาระกันลอบยิงเสียชีวิต โดยทหารพม่าและทหารอาระกันได้ปะทะกันตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมา ด้านพันเอก หน่วยทุนอ่อง รองผู้นำของกองทัพอาระกันเปิดเผยว่า คาดการณ์ไว้แล้วว่า อาจจะถูกโจมตีทางทหารจากกองทัพพม่า โดยเตรียมปกป้องตัวเอง แต่จะไม่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน นอกจากนี้ยังปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธในบังกลาเทศแต่อย่างใด
ทางพันเอก หน่วยทุนอ่อง กล่าวว่า สงครามที่กำลังเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเจรจาทางการเมืองที่จะมีขึ้นในกรุงเนปีดอว์ในสับดาห์หน้า และจะทำลายแผนปรองดองแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม สงครามที่เกิดขึ้นในรัฐอาระกัน เริ่มส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในเมืองเจ้าก์ทอว์ ต้องหลบภัยหนีสงครามไปอยู่ที่วัดในเมืองมรัคอูแล้วจำนวน 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่พบเป็นเด็กและสตรี นอกจากนี้ยังพบชาย 2 คน ได้รับบาดเจ็บหลังถูกบังคับให้เป็นลูกหาบให้กับกองทัพพม่า และเพิ่งได้รับความช่วยเหลือจากทางการเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าตัวเลขชาวบ้านที่หนีภัยสงครามน่าจะเพิ่มสูงขึ้น
ทางกองทัพอาระกันยังได้กล่าวหากองทัพพม่าว่า ได้ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ไปในพื้นที่สู้รบ อีกทั้งบังคับใช้แรงงานชาวบ้านแบกหามทหารพม่าที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม โดยมีรายงานว่า มีทหารพม่าเสียชีวิตมากถึง 20 นาย ในเหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา กองทัพอาระกันนั้นเพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2552 โดยได้รับความช่วยเหลือและเป็นพันธมิตรกับกองทัพเอกราชคะฉิ่น KIA ทางกองทัพอาระกันนั้นมีกองบัญชาการใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมของ KIA ในรัฐคะฉิ่น คาดว่า มีกำลังพลราว 1,500 นาย ซึ่งทางกองทัพอาระกัน โกก้าง (MNDAA) และปะหล่อง TNLA เป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ 3 กลุ่มที่ไม่ถูกยอมรับและไม่ได้รับเชิฐจากรัฐบาลพม่าให้เข้าร่วมในกระบวนการสันติภาพ
ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ในวันที่ 12 มกราคมนี้เป็นต้นไป ทางรัฐบาลพม่าเตรียมหารือเจรจาทางการเมืองกับกลุ่มติดอาวุธ 8 กลุ่มที่ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ หรือหยุดยิงแห่งชาติ เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงที่ให้มีการเจรจาทางการเมืองภายใน 90 วัน หลังลงนามหยุดยิง ขณะที่ความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่ง กลุ่มที่ยังไม่ได้ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศออกมาประกาศจะไม่เข้าร่วมในการเจรจาการเมืองที่จะเกิดขึ้นที่เนปีดอว์ ซึ่งที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธส่วนใหญ่ที่ยังไม่ลงนามหยุดยิงอย่าง กองทัพว้า ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาชาติพันธุ์ก็มีท่าทีชัดเจนว่าต้องการแก้ปัญหาสงครามการเมืองกับรัฐบาลใหม่ที่นำโดย NLD มากกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบัน
ที่มา Myanmar Times/Irrawaddy
โดย Transborder News